กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร รอง ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก, พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล, พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ รอง ผกก.2 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อัครวุฒิ จันทร์เจริญ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายจักรพันธ์ฯ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2401/2566 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์เป็นเท็จ”
จับกุม หน้าอาคารรับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเมื่อประมาณต้นปี 2557 ผู้เสียหายได้รับการเชิญชวนจาก นายจักรพันธ์ฯหรือ ดร.อ้วน เจ้าของฉายา “มิสเตอร์พันล้าน” นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ให้ร่วมลงทุนซื้อหุ้นของบริษัทมีชื่อ แห่งหนึ่งผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยบริษัทดังกล่าว มีนายจักรพันธ์ฯ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ โดย นายจักรพันธ์ฯ อ้างว่าจะนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ซึ่งเมื่อผู้เสียหายดูจากโปรไฟล์ของบริษัท และตัวบุคคลแล้ว ผู้เสียหายเกิดความหลงเชื่อจึงร่วมลงทุนหุ้นกับบริษัทดังกล่าว แต่ต่อมาภายหลังทราบว่า นายจักรพันธ์ฯ ไม่สามารถนำบริษัทดังกล่าว เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามที่กล่าวอ้างได้ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวน 19 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้
ต่อมาภายหลังพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจนศาลอนุมัติหมายจับ และทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนติดตามผู้ต้องหารายนี้เรื่อยมา จนกระทั่งนายจักรพันธ์ฯ ได้เเจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่าจะขอเข้ามอบตัว โดยนายจักรพันธ์ฯ ได้เดินทางมาพร้อมกับทนายความ บริเวณหน้าอาคารรับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวมาทำบันทึกจับกุม/แจ้งข้อกล่าวหา/นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา