เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 66 เวลา 13.00 น. ณ ตำรวจภูธรภาค 7 ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย
พล.ต.ท.วรายุทธ สุขวัฒน์ ผทค.พิเศษ ตร. รรท.รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.อ.เพรียว เลี้ยงชีพชอบ รองเสนาธิการกองกำลังสุรสีห์ นายสำรวย วรเตชะคงคา ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ปปส.ภาค 7 พ.ต.ท.อชิรธร ฉิมพลี นวท.(สบ.3) พฐ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ
พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 นายนรภัทร รัตนวรายุทธ ปลัดอำเภอทองผาภูมิ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติด จำนวน 2 ราย ได้แก่
1. นายอาทิตย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี 2. นางสาวรัชฎา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี พร้อมด้วยของกลางในคดี ได้แก่
1. ยาบ้า จำนวน 146,000 เม็ด 2. รถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีฟ้า ณท 6845 กรุงเทพมหานคร (ขนยาบ้า) โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่าย โดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมีผล กระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งข่าวจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดจากชายแดนประเทศพม่า เข้ามาในพื้นที่ตอนในของประเทศ โดยใช้รถยนต์ กระบะยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีฟ้า ณท 6845 กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงร่วมกันวางแผนสกัดกั้น ตรวจค้นจับกุม จนกระทั่งในวันที่ 10 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 03.00 น.ได้ พบรถยนต์กระบะคันดังกล่าวตามที่สายลับแจ้งขับเข้ามาที่ด่านตรวจ พบนายอาทิตย์ พึ่งไทย เป็นผู้ขับขี่ มีนางสาวรัชฎา เชยโต ภรรยา นั่งอยู่ในห้องโดยสารด้านหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า 146,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องลำโพงท้ายแคปของรถยนต์กระบะ ซึ่งได้ดัดแปลงขึ้นมาเพื่อชุกซ่อนยาเสพติด จึงได้ยึดไว้เป็นของกลางและนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้อง และตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดทุกราย และเส้นทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดอันจะเป็นการแก้ปัญหายาเสพติดในสังคมได้อย่างแท้จริง ตามคติที่ว่า ”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องตำรวจ ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป #/ พล ภูมิภาค
