อำนาจ สว. – คสช. มีอำนาจเหนือฟ้าจริงหรือ ? รวมสว. 200 เสียง ในกำมือยิ่งกว่าพรรคการเมืองมีเสียงอันดับ 1 มีผู้แสดงหลักเพียงไม่กี่คน มีแต่หน้าซ้ำ ๆ ที่ออกมาเล่นแสดงตามสื่อ เสมือนคนหนึ่งเป็นหัวหน้าพรรค สว.- คสช. รองหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค มีสิทธิ์มีอำนาจในมือ ‘ ชี้สั่ง ‘ กูไม่เอาพรรคนี้ เอาพรรคนี้จัดตั้ง ‘ รัฐบาล ‘ หรือมีใครเสนอตำแหน่ง ? ให้นั่งกระทรวงใดหลังพ้นวาระไว้ล่วงหน้าอุดมการณ์สว. – คสช. เคยประกาศพรรคใดรวมเสียงได้มากจะยกมือสนับสนุน คงเป็นเช่นนั้น เมื่อปี 2562 พรรคพลังประชารัฐ รวมได้ 251 เสียง ยากต่อการบริหารประเทศให้ราบรื่นได้ จนภาพการแจกกล้วยซื้องูเห่าเต็มสภา หรือ สว. – คสช. ไม่รับรู้ภาพยิ่งกว่าการคอรัปชั่น เพื่อความอยู่รอดในการบริหารประเทศ เมื่อลงทุนถามต้องถอนทุนบวกกำไรหรือไม่ การเมืองช่างบัดซบสุด ๆ เมื่อฝ่ายบริหารประเทศแจกกล้วยงูเห่า สส. ต่างพรรคหลังหมดอำนาจโดยถาวร ‘ ตอ ‘ ต้องผุดรอเช็คบิล
เมื่อ ‘ ก้าวไกล ‘ ได้ สส. มาอันดับ 1 กวาด สส.151 เสียง รวม 7 พรรคการเมือง 312 เสียง กว่า 25 ล้านเสียงของประชาชนให้การสนับสนุนจัดตั้งรัฐบาล ‘ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ‘ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ถูกอำนาจมืด หุ้น ITV แผนแรกในการสกัด ศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่สส. พิธา รู้หรือถูกกลั่นแกล้ง สส.ที่เคยเซ็นรับรองก่อนสมัครว่าที่สส.มีสิทธิ์หรือไม่หาก พิธา หัวหน้าพรรคถูกตัดสิทธิ์ถาวาร แผนสองรอศาลรัฐธรรมนูญตีความที่มีผู้ร้องเรียนนโยบายแก้ ม.112 ส่อล้มล้างสถาบัน ให้ยุบพรรคก้าวไกล ตัดสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค เช่นเดียวกับพรรคอนาคตใหม่ที่เคยถูกยุบพรรคมาแล้ว
การประกาศ ‘ ก้าวไกล ‘ พรรคอันดับ 1 ส่งไม้ต่อให้พรรคอันดับ 2 ‘ เพื่อไทย ‘ จัดตั้งรัฐบาล ปฏิบัติการ เพื่อไทยที่เหนือชั้นคร่ำหวอดทางการเมือง กับแผนจริงใจให้ก้าวไกลได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่อหรือไม่ เมื่อ สว. – คสช. เคยประกาศไม่สนับสนุนก้าวไกลที่มีนโยบายแก้ ม.112 ประสานอย่างไรกลุ่ม สว .- คสช. ไม่ยอมรับหรือแม้แต่พรรคการเมืองที่เคยประกาศปิดสวิตซ์ สว. ก็ไม่ยอมรับก้าวไกล เมื่อเพื่อไทยรู้ล่วงหน้าประสานอย่างไรคงได้คำตอบเดิม หรือเป็นแผนที่วางไว้ของอำนาจมืด ที่มี สว. – คสช. 200 เสียงในกำมือ
22 กรกฎาคม 2566 เป็นการสร้างภาพหรือฉายจริง เชิญหลายพรรคการเมืองมาหารือไม่ว่าภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนากล้า พลังประชารัฐ คงขาดพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขาดหัวเรือกำลังเลือกหัวหน้าพรรค คำตอบของทุกพรรคไปทิศทางเดียวกัน ยินดีร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย แต่ต้องไม่มีพรรคก้าวไทยที่มีนโยบายแก้ ม.112 ก็เห็นคำตอบเดิม ๆ ที่ใครก็ทราบคำตอบหลังเจรจา จริงแท้มีใครอยู่เบื้องหลังเกรงเสียผลประโยชน์ เสียอำนาจ
ยังไม่ถึงวันที่ 27 กรกฎาคม ที่จะมีการประชุมรัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความว่า ‘ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ‘ ถูกตัดสิทธิ์การเสนอชื่อครั้งต่อไปหรือไม่ ยังไม่ถึงเวลาประชุม 8 พรรคการเมืองหลังจากเพื่อไทยออกไปพบปะกับ สส. ขั้วอำนาจเก่าหรือ สว. – คสช. ผลเจรจาเป็นเช่นใด กระแสเพื่อไทยถอดใจผลการเจรจาได้คำตอบเช่นเดียวกับก้าวไกล
จริงหรือ ? เพื่อไทยกำลังจะส่งไม้ต่อให้พรรคที่ 3 ‘ ภูมิใจไทย ‘ จัดตั้งรัฐบาล เพื่อหวังคนแดนไกล ‘ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ‘ ได้กลับประเทศไทย ยกตำแหน่งให้ ‘ อนุทิน ชาญวีรกุล ‘ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เพียงแต่ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี โดยมีพรรคที่ร่วมรัฐบาล อาทิ พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา เสรีรวมไทย ฯลฯ ที่รวมได้เกิน 300 เสียงบวก สว. – คสช. 200 เสียง หากฝันนี้เป็นจริง อำนาจเผด็จการยังคงวงเวียนยิ่งกว่าเงาอสูรครองประเทศไทย
การเดินขบวนทวงประชาธิปไตยมีให้เห็นหากจบเร็วถือว่าโชคดีแต่หนนี้คงไม่ใช่ธรรมดาอย่างที่คิดจะเกิดวันมหาวิปโยคอีกครั้งในไทยหรือไม่ เศรษฐกิจต้องถดถอยตามหลังประเทศเมียนมาร์ ที่ทหารยึดอำนาจที่นานาประเทศไม่ยอมรับแต่หนนี้มีให้เห็นคือการสูญเสียของบ้านเมืองหรือแม้แต่ชีวิตประชาชนจำนวนมาก อย่าให้เกิดเพราะหวังชิงอำนาจเมื่อประชาธิปไตยได้รับชัยชนะ
หญิงอรชร/การเมืองชุมชน