กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตํารวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้ การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.รรท.ผบก.ทล. , พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.จิระพันธุ์ รุจิระกุล รอง ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.วิษณุ คําโนนม่วง รอง ผกก.6 บก.ทล., พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สว.ส.ทล.2 กก.6 บก.ทล. สั่งการให้
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นําโดย ร.ต.อ.กัมพล อารีล้น รอง สว.ส.ทล.2 กก.6 บก.ทล.
ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหา จํานวน 14 ราย
1.นาย พนวัฒณ์ ฯ อายุ 51 ปี 2.นาง พิพาพรรณ ฯ อายุ 50 ปี 3.MRS.ROEURM SANGHOOY อายุ 30 ปี 4.MR.CHIN CHY อายุ 38 ปี 5.MR.PHAN PHETH อายุ 28 ปี 6.MRS.MEKH SAVANH อายุ 42 ปี 7.MR.YAN VIREAK อายุ 29 ปี 8.MR.DIN DUONG อายุ 26 ปี 9.MR.LOUT SAROEURN อายุ 43 ปี 10.MR.UO BOEB อายุ 34 ปี 11.MR.SVEAN HOEURY อายุ 39 ปี 12.MR.LEN KAI อายุ 29 ปี 13.MR.MEK CHANRET อายุ 28 ปี 14.MR.TING TOEM อายุ 35 ปี สัญชาติกัมพูชา พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์ตู้ โตโยต้า จํานวน 1 คัน สถานที่จับกุม บริเวณ ริมถนน หมายเลข 226 ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตํารวจทางหลวงบุรีรัมย์ได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่หน่วยเฝ้าตรวจชายแดนที่ 22 ว่าจะ มีการลักลอบนําแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีผู้มารับตัวที่บริเวณด่านพรมแดนช่อมจอม จ.สุรินทร์ เข้าสู่พื้นที่จ.บุรีรัมย์ เพื่อเตรียมมุ่งหน้าไป กรุงเทพฯ
โดยขบวนการนี้จะใช้รถตู้นแรงงานผิดกฎหมาย ดังกล่าว หลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ตํารวจทางหลวง จึงได้ออกตรวจสอบรถตู้ที่มีตําหนิรูปพรรณตามที่รับแจ้ง ในเส้นทางดังกล่าว
กระทั่งพบรถยนต์ตู้คันต้องสงสัย ขับมาถึงถนนหมายเลข 226 ต.สวายจีก อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อขอตรวจสอบ พบนายพนวัฒณ์ เป็นผู้ขับขี่ และมีนางพิพา พรรณ โดยสารมาด้วย
จากนั้นจึงได้ขอตรวจสอบภายในรถโดยสาร จากการตรวจสอบพบบุคคลต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา จํานวน 12 คน ไม่มีเอกสารการเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีหนังสือแสดงการเข้าออกตามช่องทางที่ กําหนด(ด่านตรวจคนเข้าเมือง) เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ ก่อนควบคุม ตัวผู้ต้องหาทั้ง 14 คนนําส่งพนักงานสอบสวน ดําเนินคดีตามกฎหมาย
สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องอยู่หมู่บ้านเดียวกัน จึงชักชวนกันเดินทางมาจากประเทศกัมพูชา เพื่อเข้ามาทํางานพื้นที่จังหวัดสระบุรี อยุธยา นครปฐมและ กรุงเทพมหานคร โดยเข้ามาทางด่านจ.สุรินทร์ มี MR.DUONG DIN (ผู้ต้องหาที่ ซึ่งเคยทํางานเป็นคนสวน อยู่ใน อ.เมือง จ.สระบุรี เป็นคนแนะนําและติดต่อกับนายหน้าชาวกัมพูชา จ่ายค่าดําเนินการคนละ 3,500-4,000 บาท