วันที่18 ส.ค.66 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5 บก.ป, พ.ต.ต.ธีระพงษ์ คงเขียว สว.กก.5บก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กก.5 บก.ป. จับกุม นายธีระ ฯ หรือเหนาะ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดทุ่งสง ที่ 268/2566 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2566 ข้อหา “ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุอันสมควรและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ,ร่วมกันพาอาวุธ (มีดพร้า) ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเปิดเผย โดยไม่มีเหตุสมควร , ร่วมกันบุกรุกเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ,ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน” ได้ที่บริเวณในสวนยางพารา ในพื้นที่ ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 18.30 น.ที่ผ่านมา นายเก้า ฯ กับพวกอีก 8-9 คนมั่วสุมต้มน้ำใบกระท่อมดื่ม และส่งเสียงดังรบกวนพร้อมจุดประทัดหลายนัดเป็นที่รำคาญ ลูกชายโดยผู้เสียหายจึงมาห้ามปรามให้หยุดส่งเสียงดังก่อนแยกย้ายกันไป ทำให้นายเก้าและกลุ่มวัยรุ่นเกิดความไม่พอใจ ผ่านไปประมาณ30 นาที ขณะที่ผู้เสียหายและลูกชายอยู่ที่บ้าน ได้มีนายธีระ ฯ ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นพี่ชายของนายเก้าฯ เดินถืออาวุธมีดพร้ามาฟันลูกชายผู้เสียหาย จึงเกิดการต่อสู้กัน ผู้เสียหายจึงได้เข้าช่วยเหลือ ก่อนที่ต่อมานายณัฐพล ฯ ซึ่งเป็นพี่ชายอีกคนของนายเก้าจะเดินถืออาวุธปืนพกสั้นมา แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายจำนวน 2 นัด เคราะห์ดีที่ไม่ถูกใคร ก่อนจะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง จนมีการขอศาลออกหมายจับนายณัฐพลฯ และนายธีระฯ 2 พี่น้องไว้ กระทั้งชุดจับกุมสืบทราบว่านายธีระ ฯ หนึ่งในผู้ต้องหาได้หลบไปกบดานอยู่ที่บ้านพ่อ ในพื้นที่ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แต่นายธีระฯ ไหวตัววิ่งหลบหนีเข้าสวนยางพาราทางหลังบ้าน สุดท้ายไม่รอด ถูกจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน นายธีระฯ เบื้องต้นปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขณะเดียวกันจะเร่งติดตามนายณัฐพลฯ ผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนีอยู่เพื่อมาดำเนินคดีต่อไป