เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สุโกศล ทองแกมแก้ว รอง สว.(สอบสวน) กก.5.บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 คดี โดยนำหลักฐาน เอกสารต่างๆ มามอบให้ประกอบการพิจารณา
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สำหรับคดีแรกเป็นการร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจยศ พ.ต.ท.ตำแหน่ง รอง ผกก.ป.สภ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา หลังพบหลักฐานการเรียกรับเงินสินบนจากการลักลอบขนกระเทียมเถื่อน
รวมถึงโกงเบี้ยเลี้ยงลูกน้อง โดยตนมีหลักฐานเป็นหนังร้องเรียนถึงจเรตำรวจแห่งชาติ ของตำรวจนายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของรอง ผกก.คนดังกล่าว ที่ทนรับพฤติกรรมของเช่นนี้ไม่ได้ เหตุเพราะก่อนหน้าได้จับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนกระเทียมเถื่อน แต่หลังจากนั้นไม่นานกลับถูก รอง ผกก.คนดังกล่าวโทรศัพท์มาต่อว่า และข่มขู่ ไม่ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด อีกทั้งตัวผู้กระทำผิดเองยังพูดจาอ้างว่าจ่ายเงินให้กับรองผู้กำกับเดือนละ 15,000 บาท อีกด้วย
“นอกจากนี้ยังพบว่า รอง ผกก. คนดังกล่าวยังได้โกงเงินค่าเบี้ยเลี้ยงการทำงานที่ได้จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกโกงเงินไปจำนวน 100,000 บาท และครั้งที่ 2 โกงเงินไป จำนวน 87,000 บาท โดยมีการโอนเงินให้กับดาบตำรวจคนหนึ่งก่อนโอนเข้าบัญชีตัวเอง เรื่องที่เกิดขึ้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ สภ.วังนำเขียว ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่เกรงว่าการตรวจสอบจะไม่มีความเป็นธรรม จึงตัดสินใจมาร้องตำรวจ บก.ปปป. ในวันนี้”
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนคดีที่สอง เป็นการมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ว่าที่ พ.ต.ต.ปภิณวิช รอดบางยาง สารวัตร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรสำนักงานกำลังพล หลังพบมีการหนีราชการเกิน 15 วัน เพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ 54 ครั้ง โดยไม่มีการขออนุญาต หรือ เสนอใบลาตามระเบียบ เช่นเดียวกับ ร.ต.อ.ณัฐศักดิธัช พงศ์ภิภัทราภาคิน รองสารวัตรฝ่ายอำนวยการ สภ.ชลบุรี ในขณะนั้น จากการตรวจสอบเอกสารพบว่ามีการลาจำนวน 2 ครั้ง แต่เมื่อตรวจสอบจากข้อมูลสารสนเทศ พบว่ามีข้อมูลเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศ 13 ครั้ง โดยไม่มีการขออนุญาต และเสนอใบลาตามระเบียบ โดยตำรวจทั้ง 2 นาย กับพวกรวม 4 คน ยังเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์ ตามที่สำนักงานจเรตำรวจหลักฐานทั้งหมดถูกนำมามอบให้กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ดำเนินคดีทั้งทางอาญาและวินัยเพิ่มเติม เพราะกลัวว่าเรื่องจะเงียบหายไป
ด้านพนักงานสอบสวนเบื้องต้นได้ทำการสอบปากคำ นายอัจฉริยะ ผู้ร้องไว้ เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป