อัจฉริยะพา 2 นายตำรวจไซเบอร์คดีเอี่ยวชุดผู้การชลบุรีรีดเงิน

21

อัจฉริยะพา 2 นายตำรวจไซเบอร์คดีเอี่ยวชุดผู้การชลบุรีรีดเงิน140 ล้าน แจ้ง ปปป.เอาผิด ผกก.คูคต ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

วันนี้ (23 มิ.ย.66) 10.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่อทางอาชญากรรม พา พันตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ อ่อนตา รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 และพันตำรวจโท ปฐมพงศ์ มีอยู่ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าว และเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)

เพื่อดำเนินคดีกับ พันตำรวจเอก วงกต สุวรรณวัฒน์ ผู้กำกับการ สภ.คูคต กับพวก ในความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 157 ข้อหา ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีการจับกุมดำเนินคดีเอี่ยวผู้การชลบุรีเรียกรับสินบน 140 ล้านบาท

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีมาไม่ได้รับความเป็นธรรมใดๆ จากพนักงานสอบสวนทั้งชุดที่สโมสรตำรวจ และตำรวจ สภ.คูตต พยายามติดตามความคืบหน้าของคดี และตรวจสอบว่าใครเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับตน ก็ไม่ได้รับคำตอบหรือการชี้แจงใดๆจากสภ.คูคต หรือแม้แต่ผู้บังคับบัญชาระดับสูง ก็ไม่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่ตนได้ ทั้งที่การปฏิบัหน้าที่วันดังกล่าวมีหลักฐานในการออกปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างแต่กลับถูกแจ้งข้อหาดำเนินคดีจนทำให้ประวัติด่างพร้อย

ยอมรับรู้สึกน้อยใจมาก เพราะผู้บังคับบัญชาไม่ได้ลงมาพยายามตรวจสอบความบริสุทธิ์ให้กับตน แต่กลับแจ้งข้อหาภายใน 3 วันทั้งที่คดีอื่นๆ กลับใช้เวลาเป็นเดือน แต่คดีนี้กลับแจ้งอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ควรสรุปสำนวนส่ง ปปช. แต่เหตุใดจึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับตน

ทั้งนี้ตนยังนำแนวทางการปฏิบัติในการทำคดีนี้มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน พร้อมพบข้อพิรุธ และทาง รองผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า คดีนี้เข้าข่ายพ.ร.บ.อุ้มหายตามมาตรา 7 ตามขั้นตอนต้องแจ้งให้อัยการ เพื่อให้พนักงานอัยการมาร่วมสอบปากคำ แต่ขณะนี้ยังไม่มีอัยการเข้าร่วมการสอบปากคำตำรวจทั้ง 8 นายมีแต่ตำรวจฝ่ายเดียว

ด้านนายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้นำเอกสารหลักฐานคำสั่ง ผบ.ตร. ที่เซ็นคำสั่งว่าชุดจับกุม ในคดีดังกล่าวเข้าข่าย พ.ร.บ. อุ้มหาย โดยมีการเซ็นคำสั่งเมื่อวันพุธที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา แต่ชุดจับกุมไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอน เช่น ไม่มีการบันทึกภาพขณะจับกุมแต่ตำรวจไซเบอร์ทั้ง 2 นายมีภาพในขณะจับกุม จึงถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญแต่ทำไมถึงโดนร่างแหถูกดำเนินคดีไปด้วย

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าไม่ถูกต้องจึงยื่น มือเข้ามาช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังพาดพิงถึง พล.ต.อ. สุรเชษฐ หักพาล รองผบ.ตร. ว่าที่ผ่านมาทำคดีมาเยอะ แต่ทำไมคดีนี้จึงไม่ปกติ มีพิรุธ อีกทั้งมีตำรวจระดับนายพล ตัวย่อ น. พูดกับตนและตำรวจทั้ง 2 คนว่า มีบิ๊กระดับประเทศสั่งให้ดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 2 นาย สำหรับตนแล้วเชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ในรัฐบาล

นายอัจฉริยะ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า จากประวัตินายเป้ เป็นหนึ่งในเครือข่ายของสารวัตรซัว และเหตุใดพล.ต.อ.สุเชษ ถึงเชื่อนายเป้ แล้วจับกุมตำรวจ 2 นายนี้ พร้อมอยากจะถามกลับไปว่าเหตุใดคนใกล้ชิดอักษรย่อ ด. คนสนิทที่มีเว็บพนันอยู่ในมือกว่าร้อยเว็บแต่ไม่จัดการ