ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ระดมค้น เครือข่าย อาฟู่ BLANK GUN ออนไลน์

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ( บก.ปคบ. ) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ,พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว,พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1.บก.ปคบ.,พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์,พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์ รองผกก.1.บก.ปคบ.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมนำโดย พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.1.บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.1 บก.ปคบ.

ร่วมกันจับกุม น.ส.ตั๊ก ฯ ความผิดตามประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก เรื่องกำหนดประเภคของสินค้าให้เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ.2565

สถานที่ตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หมู่ 4.ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2566 เกิดเหตุกราดยิงที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้ง ว่ามีการลักลอบขาย อาวุธปืนแบลงค์กันทางช่องทางออนไลน์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวน ได้พบแอพพลิเคชั่น Facebook ชื่อ อาฟู่ แบลงค์ มีการโพสต์โฆษณาสินค้าอาวุธปืนแบลงค์กัน ที่จำลองเลียนแบบอาวุธปืนจริง เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก และมีการเชิญชวนให้เข้าชมสินค้าในไลน์กลุ่มที่ชื่อว่า แบลงค์กัน 1-7 (กลุ่มส่วนตัวรับเฉพาะ) ในกลุ่มไลน์ ดังกล่าวมีการลักลอบขายปืนแบลงค์กันโดยจัดส่งสินค้าทางขนส่งไปรษณีย์ มีผู้ที่สนใจ และสั่งชื้อเป็นจำนวนมาก โดยไม่มีการตรวจสอบผู้ชื้อ และบันทึกประวัติผู้ซื้อ เพื่อตรวจสอบหลังการจำหน่าย จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มที่นำปืนแบลงค์กันมาดัดแปลง เพื่อใช้กับกระสุนจริง

โดยมีผู้ใช้บัญชีไลน์ชื่อ อาฟู่ เป็นแอดมินของกลุ่ม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ ได้ทำการล่อชื้อ จากกลุ่มไลน์ดังกล่าว โดยมี นายอาทิตย์ฯ หรืออาฟู่ เป็นผู้ขายให้

โดยตกลงกันชื้อขายอาวุธปืนแบลงค์กัน พร้อมลูกกระสุน ในราคา 5,800 บาท โดยชำระผ่านธนาคาร เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า อาวุธปืนแบลงค์กัน ถูกส่งมาจาก พื้นที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และบุคคลมาส่งสินค้าคือ น.ส.ตั๊ก ฯ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านปืน บีบีกัน ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี

​เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเข้าตรวจค้นสถานที่ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งจำหน่ายและเก็บของกลาง ดังกล่าวไว้

ผลการตรวจค้นพบ อาวุธปืน บีบี กัน จำนวน 40 กระบอก และ อาวุธปืนแบลงค์กันจำนวน 3 กระบอก และกระสุนปืน บีบี กัน และแบลงค์กัน จำนวนหลายรายการ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1. บก.ปคบ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เตือนภัย การชื้อขาย แบลงค์กัน และ บีบีกัน โดยเข้าข่ายเป็นความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490, พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560