จับกุมสาวใช้ป้ายทะเบียนรถยนต์และป้ายแสดงการชำระภาษีประจำปีปลอม

34

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.รอง ผบช.ก. , พ.ต.อ.คงกฤช เลิศสิทธิกุล รรท.ผบก.ทล. , พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปรก.บก.ทล , พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล. , พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. , พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล. , พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง ผกก.1 บก.ทล. , พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง ผกก.1 บก.ทล. , พ.ต.ท.เกียรติพร สวัสดิเทพ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เกียรติพร สวัสดิเทพ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. , ร.ต.อ.บุญชู ฉัตรารักษ์ รอง สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. , ร.ต.ต.มนัส มาหัวเขา รอง สว.(ป) ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล

ร่วมกันจับกุม นส.ศศิยาพัชรฯ อายุ 40 ปี ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี

กระทำผิดฐาน ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม

พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. รถยนต์ ยี่ห้อ Nissan รุ่น almera สีดำ จำนวน 1 คัน พร้อมกุญแจ 1 ดอก

​2. แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ จำนวน 2 แผ่น

​3. แผ่นป้ายแสดงการชำระภาษีประจำปี จำนวน 1 แผ่น

จับกุม บริเวณถนนพหลโยธิน ทล.1 กม.357 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พบว่ารถยนต์เก๋งยี่ห้อ NISSAN

สีดำ กระทำความผิดกฎจราจร โดยขับขี่รถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรบริเวณแยกค่ายจิรประวัติ อ.เมือง

จ.นครสวรรค์ แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลรถยนต์หมายเลขทะเบียนดังกล่าวพบว่าสีและยี่ห้อไปตรงกับรถคันอื่น

จึงได้บันทึกข้อมูลลงในระบบการแจ้งเตือนรถต้องสงสัยสวมทะเบียน ต่อมาตามวันเวลาที่จับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับการแจ้งเตือนของกล้องตรวจจับการกระทำความผิดจาก “ศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบและเฝ้าระวังรถต้องสงสัย”Suspect Vehicle Command Center(SVCC) ของกล้องตรวจจับบริเวณ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 และ หมายเลข 1 ว่ามีรถยนต์ต้องสงสัยสวมทะเบียน ยี่ห้อ Nissan รุ่น almera สีดำ ผ่านบริเวณดังกล่าวและกำลังจะวิ่งผ่านจังหวัดนครสวรรค์

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกตรวจสอบและติดตามรถคันดังกล่าวจนมาถึงบริเวณ ทล.1 กม.357 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ จึงได้ทำการตรวจสอบพบ นส.ศศิยาพัชรฯ เป็นผู้ขับขี่

จากการตรวจสอบพบว่า แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ เป็นป้ายปลอมทั้งแผ่นหน้าและแผ่นหลัง และพบว่าแผ่นป้ายแสดงการชำระภาษีประจำปีเป็นเอกสารปลอม ซึ่งไม่ได้มาจากที่กรมการขนส่งออกให้ โดยแผ่นป้ายทะเบียนดังกล่าว ที่ติดตรึงไว้ที่ด้านหน้าและด้านหลังตัวรถ และแผ่นป้ายแสดงการชำระภาษีที่ติดไว้บริเวณกระจกหน้าด้านในตัวรถนั้น กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง

จากการสอบถาม นส.ศศิยาพัชรฯ ให้การว่าได้ติดต่อซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากเพจ facebook จำชื่อไม่ได้ เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2565 ในราคา 65,000 บาท โดยการชำระเงินสด และมีการนัดส่งมอบรถยนต์คันดังกล่าวกันที่จังหวัดปทุมธานี โดยมีผู้หญิงไม่ทราบชื่อเป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมาส่งมอบให้และเป็นผู้รับสดเงินไป

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา นส.ศศิยาพัชรฯ ให้ทราบว่ากระทำความผิดฐาน “ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม” ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิ ให้แก่ผู้ถูกจับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว

จึงได้ทำการจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบข้อมูลรถยนต์คันดังกล่าว มี พบว่ารถยนต์คันดังกล่าว มีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์คือ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด(มหาชน) มีชื่อนายธีระพงษ์ฯ เป็นผู้ครอบครอง จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่ามีข้อมูลการค้างชำระค่างวด จำนวน 15 งวด งวดละ 5,534 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามไปยังนายธีระพงษ์ฯ โดยนายธีระพงษ์ฯ เล่าว่า ตนได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจากเต้นท์รถมือสอง โดยหลังจากซื้อมาได้ให้นายกอล์ฟ ซึ่งเป็นญาติของตนนำรถคันดังกล่าวไปใช้ โดยนายกอล์ฟ บอกกับตนว่าจะเป็นผู้ชำระค่างวดเอง กระทั่งต่อมา บริษัทไฟแนนซ์ ได้ยื่นฟ้องนายธีระพงษ์ฯ เนื่องจากรถยนต์คันดังกล่าวค้างชำระค่างวดถึง 15 งวด ซึ่งนายธีระพงษ์ฯ ไม่สามารถนำรถคันดังกล่าวมาส่งคืนให้กับไฟแนนซ์ได้ และก็ไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวไปอยู่กับใครที่ใด ซึ่งตนก็พยายามติดตามหารถคันนี้มาโดยตลอด

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงนครสวรรค์สามารถจับกุมและตรวจยึดรถคันนี้ไว้ได้

​โดยนายธีระพงษ์ฯ รู้สึกดีใจและสบายใจขึ้นมาก จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสามารถติดตามจับกุมและตรวจยึดรถคันดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งถ้าหากตนยังไม่สามารถนำรถคันดังกล่าวไปส่งมอบให้กับบริษัทไฟแนนซ์ได้ ตนจะต้องชดใช้เงินเป็นจำนวนหลายแสนบาท ซึ่งตนก็ยังไม่รู้ว่าจะหาเงินจำนวนนี้มาจากไหน ทั้งนี้นายธีระพงษ์ฯได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงในการติดตามจับกุมและตรวจยึดรถได้ในครั้งนี้

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพ

​เตือนภัย ไม่ควรใช้ชื่อของตนไปซื้อรถ หรือดำเนินธุรกรรมหรือนิติกรรมใดๆให้บุคคลอื่น