เมื่อเวลาประมาณ 16 นาฬิกา วันที่ 22 มี.ค 67 นาย เสฎฐวุฒิ คีรีพอน ตำแหน่ง นิติกรชำนาการ ที่ทำการปกครองจังหวัดนนทบุรี ได้รับมอบอำนาจจากนายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท. คชสิทธ์ โคตะโน รอง.สว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ. นนทบุรี ให้ดำเนินคดีความผิดอาญาฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 แก่ นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎร จ.นนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกล กรณีแถลงข่าวการจับบ่อนการพนันในพื้นที่ อำเภอบางใหญ่ จ. นนทบุรี ที่อาคารรัฐสภา เกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ของชุดปฎิบัติการพิเศษ กรมการปกครองและจังหวัดนนทบุรี ต. บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ที่พูดว่าผู้ว่าสั่งให้ปลัดจังหวัดหิ้ว ส.ส ออกจากที่เกิดเหตุ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 11.00 น. ที่อาคารรัฐสภา
โดยรายละเอียดในบันทึกประจำวันระบุว่า นายเสฎฐวุฒิ คีรีพอน ผู้รับมอบอำนาจช่วง จากนายสุธี ทองแย้ม แจ้งว่าด้วยจังหวัดนนทบุรี ได้ทราบข้อเท็จจริงจากสื่อออนไลน์ กรณี (Face book) พรรคก้าวไกล จังหวัดนนทบุรี ได้มีการแถลงข่าว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 เวลา 11.00 น. ณ.อาคารรัฐสภาเกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ของชุดปฎบัติการพิเศษ กรมการปกครองจังหวัดนนทบุรี โดยสรุปได้ว่า นายคุนากร มั่นนทีรัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนนทบุรีเขต 5 พรรคก้าวไกลกล่าวว่า “เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ได้มีการบูณาการของเจ้าหน้าที่รัฐ เข้าไปจับกุมบ่อนการพนันคาสิโนผิดกฎหมาย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีระกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์พบว่าบ่อนมีขนาดใหญ่และคาดว่าเป็นบ่อนที่มีการบุกจับใหญ่ที่สุด ที่ทางราชการร่วมกันจับกุมผมได้เข้าไป ร่วมสังเกตการณ์ตั้งแต่ซอยหมู่บ้านพระปิ่น 3 และได้แสดงตนว่าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอเข้ามาสังเกตการณ์ว่ามีการจับกุมอย่างไร เหตุใดถึงเปิดให้นักพนันเข้ามาเล่นได้เป็นจำนวนมาก โดยที่ทางส่วนราชการไม่รับทราบได้อย่างไร เมื่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยกรมการปกครองกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อทำบันทึกการจับกุม และย้ายผู้ต้องหาทั้งหมดไปที่ศาลาประชาคม อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ได้เชิญผมออกจากห้องประชุม โดยให้เหตุผลว่ากังวลว่า จะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอยากเรียนว่า ในฐานะของผู้แทนราษฎรที่อยากมาสังเกตการณ์แทนประชาชน รวมถึงอยู่ในคณะกรรมธิการ (กมธ.) กฎหมายยุติธรรมสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร อยากที่จะเป็นตัวแทน ผู้แทนราษฎรที่เข้าร่วมสังเกตุการณ์ว่ากระบวนการลงบันทึกการจับกุมเป็นไปอย่างถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ หรือขัดต่อพระราชบัญญัติ การอุ้มหายหรือซ้อมทรมานหรือไม่ ภายหลังทางจังหวัดปลัดได้ทำการขอโทษผมแล้วถึงการกระทำที่เกิดขึ้นส่วนตัวไม่ได้ติดใจอะไร แต่ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี คิดว่าการบูรณาการและการทำงานในส่วนราชการ รวมถึงการลงพื้นที่สังเกตุการณ์ต่างๆ ควรที่จะมีการถ้อยทีถ้อยอาศัยต่อกัน ไม่ต้องถึงขั้นหิ้วปีกก็ได้ และฝากถึงประชาชนที่มีการตั้งข้อกังขา ว่าเกตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงเพราะปลัดจังหวัดและลูกน้องได้จับแขนทั้งสองข้างของผมและพยายามเชิญลงมาจากศาลาประชาคม ไม่มีราษฎรคนไหนที่จะยินยอม ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ปฎิบัติกับผมเช่นนี้ แม้กระทั่งตัวผู้ต้องหาเองก็ตาม และขอตั้งข้อสังเกต ว่าบ่อนใหญ่ขนาดนี้ จังหวัดนนทบุรีปล่อยทิ้งไว้ได้อย่างไร” ขณะที่ นายนนท์ ไพศาลลิ้ทเจริยกิจ สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกลกล่าว่า “จากเหตุการณ์การจับกุมเมื่อคืนวันที่ 19 มีนาคม 2567 ทำให้สมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนนทบุรี เกิดความขุ่นมัวในใจเป็นอย่างมาก ในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ส่วนงานราชการจังหวัด ที่นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี (นายสุธี ทองแย้ม) ที่มีการสั่งการให้ปลัดจังหวัดนนทบุรีหิ้วสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เข้าไปสังเกตุการณ์ทำงานออกมา โดยใช้การกระทำที่รุนแรง อยากถามถึงรัฐมนตรีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องว่าการกระทำในลักษณะนี้เห็นสมควรหรือไม่ ในการกระทำต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนนทบุรี อยากรับฟังคำขอโทษอย่างเป็นทางการและงานราชการจังหวัดตั้งแต่ระดับผู้ว่าราชการจังหวัดลงมาว่าการกระทำในลักษณะนี้ใช้อำนาจใด และเหมาะสมหรือไม่ในฐานะกรรมมิการคณะกรรมการ (กมธ.)การป้องกันการปราบปรามการฟอกเงินฯและติดต่อไปที่เจ้าหน้าที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)เพื่อรอรับการายงานมาสืบหาความเกี่ยวพันกับราชการหรือไม่ และการจับกุมเมื่อวานนี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ด้วย”รายละเอียดปรากฏตาม QR Code ท้ายหนังสือนี้จังหวัดนนทบุรี พิจารณาแล้วพบว่า การแถลงข่าวของนาย นนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนนทบุรี เขต 8 พรรคก้าวไกลที่ให้ข่าวว่า “ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีสั่งให้ปลัดจังหวัดนนทบุรี หิ้วสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร”นั้น อาจทำให้ประชาชนผู้รับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวเกิดความเข้าใจผิดว่าผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ใช้อำนาจโดยมิชอบตามกฎหมาย ใช้ความรุนแรงต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในข้อเท็จจริงผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี มิได้มีการสั่งการเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ให้ข่าวดังกล่าว ก็มิได้อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุแต่อย่างใด จึงเป็นการกล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริง เมื่อมีการเผยแพร่ข่างดังกล่าวออกสู่สาธารณะประชาชนทั่วไปรับทราบ อาจส่งผลให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ทราบข้อเท็จจริง เข้าใจผิดทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้รับความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อขื่อเสียงเกียรติยศ หรือทำให้ถูกดูหมิ่น หรือถุกเกลียดชังซึ่งอาจเป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดอาญาฐาน “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ดังนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี จึงได้มอบหมายให้ นายเสฎฐวุฒิ คัรีพอน ตำแหน่ง นิติกรชำนาญการที่ทำการปกครองจังหวัดนนทบุรี แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
*****************
นายปราโมทย์ ทองกุญชร (ผอ.บริหาร) 0947869441 ติดต่อโฆษณา