เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สภ.เมืองนครปฐม
ทางด้านพล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ
ผบก.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม
พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม, พ.ต.ท.เดชศักดา แต้มรุ่งเรือง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครปฐม, พ.ต.ท.ฤทธิชัยปกรณ์ ดำรงค์อิทธิสกุล รอง ผกก.สส.สภ.เมืองนครปฐม ,พ.ต.ต.สำราญ บัวเย็น สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม
ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย คือ
1.นายอุดม อายุ 43 ปี ภูมิลำเนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
2.นายณัฐพงศ์ อายุ 19 ปี ภูมิลำเนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
โดยแจ้งข้อหาว่า“ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป”
พร้อมของกลางในคดี
รถยนต์ยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น TRITON สีดำ หมายเลขทะเบียน บย 3328 สระแก้ว จำนวน 1 คัน (ที่ใช้ในการก่อเหตุ),ตู้เติมเงินบุญเติม จำนวน 1 ตู้
วัน เวลา สถานที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาก่อเหตุในพื้นที่ 3 สภ. ดังนี้ สภ.เมืองนครปฐม จำนวน 4 จุด (รวมมูลค่าทรัพย์สิน จำนวน 27,728 บาท), สภ.กำแพงแสน จำนวน 9 จุด (รวมมูลค่าทรัพย์สิน จำนวน 107,101 บาท),สภ.กระตีบ จำนวน 2 จุด (รวมมูลค่าทรัพย์สิน จำนวน 11,253 บาท)
จากที่มีผู้เสียหายเข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้าย โดยไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด พร้อมพวก ในข้อหาลักทรัพย์ ให้รับโทษตามกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ต่อมาทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ได้สืบสวนและพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ก่อเหตุและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนออกหมายจับผู้ต้องหา และสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้ใน วันที่ 17 ม.ค.68 เวลา 13.30 น.
บริเวณริมถนนสาธารณะ หน้าบ้านเลขที่ 167/2 ม.3 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
จึงได้มีการขยายผล และสอบสวนผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการออกตระเวนก่อเหตุ โดยใช้รถรถยนต์กระบะ cab ยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น TRITON สีดำ หมายเลขทะเบียน บย 3328 สระแก้ว ก่อนที่จะออกก่อเหตุจะมีการอำพราง หรือเปลี่ยนแปลงตัวรถ ให้ยากต่อการพิสูจน์ทราบ โดยการถอดอะไหล่บางชิ้น หรือติดสติกเกอร์เพิ่มเติม เมื่อก่อเหตุสำเร็จแล้ว ในขณะที่รถจอดที่บ้านจะมีการประกอบอะไหล่ และแกะสติกเกอร์ออกให้อยู่ในสภาพปกติ ในช่วงเวลากลางวันจะออกหาจุดหรือที่ตั้งตู้เติมเงินบุญเติม และจะใช้รถคันดังกล่าวมาก่อเหตุในเวลากลางคืน โดยยกตู้เติมเงินบุญเติมขึ้นรถคันดังกล่าว หลังจากได้ตู้เติมเงินบุญเติมมาแล้วก็จะเอาเงินภายในตู้ และนำตู้เติมเงินบุญเติมไปโยนทิ้ง และยังให้การว่า ได้ก่อเหตุอีกจำนวนหลายจุด ในเขตพื้นที่นครปฐม
จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญาผู้ต้องหา
1.นายอุดม พรมมิ อายุ 43 ปี ภูมิลำเนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ปี พ.ศ.2556 ข้อหา มีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (นอกเหนือจากแอลเอสดี หรือเมตแอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 3 กรัมขึ้นไป สภ.กระตีบ และปี พ.ศ.2558 ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ สภ.กระตีบ
1.3 ปี พ.ศ.2568 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน,ร่วมกันความผิดฐานรับของโจรนั้นฯ สภ.กำแพงแสน,ปี พ.ศ.2568 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ สภ.เมืองนครปฐม
นายณัฐพงศ์ อายุ 19 ปี ภูมิลำเนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
2.1 ปี พ.ศ.2568 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ สภ.เมืองนครปฐม
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการขยายผลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและได้นำตัวส่งดำเนินคดีต่อไป