เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน เปิดช่องโหว่ใหญ่ ๆ ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ชี้มีเจตนาซุก “กาสิโน”
นายธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “เปิดช่องโหว่ใหญ่ ๆ ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” โดยระบุข้อความว่า
ณ ขณะนี้สังคมไทยน่าจะเกินเลยจุดของการถกเถียงกันทางหลักการและแนวคิดว่า “ควรเอาบ่อนพนันใต้ดินขึ้นมาไว้บนดินหรือไม่?” แต่ควรจะมาถกแถลงกันบนฐานของข้อเท็จจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อเท็จจริงที่อิงอยู่กับตัวบทกฎหมายร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาล เพราะนี้คือ ของจริงว่ากฎหมายนี้จะดลบันดาลให้เกิดอะไรขึ้นได้บ้าง
หากไม่เป็นการมองผู้ร่างกฎหมายในแง่ร้ายเกินไป อาจกล่าวได้ว่าวิธีเขียนกฎหมายฉบับนี้ (รวมถึงกฎหมายอื่นอีกหลายฉบับ) ใช้วิธีเขียนแบบหลวม ๆ ไม่เขียนผูกมัดรัดตัวอะไรไว้มาก ใช้วิธีเปิดช่องไว้กว้าง ๆ เพื่อให้โอกาสสิ่งต่าง ๆ สามารถเกิดขึ้นได้ในอนาคต แล้วใช้วิธียกให้คณะบุคคลเป็นผู้ใช้ดุลยพินิจว่า จะตัดสินใจอย่างไรตามความหลวมและช่องโหว่ที่กฎหมายเปิดให้ไว้
ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ดูมีเจนตนาเปิดช่องไว้หลายประการ ขอขมวดเป็นช่องใหญ่สัก 4 เรื่อง
1. เปิดกาสิโนได้หลายแห่ง หลายขนาด No Limit
เงื่อนไข คือ “ต้องเป็นกาสิโน บวกกับอีก 4 กิจการ (มาตรา 41)
สี่กิจการที่จะเปิดร่วมกับกาสิโน กฎหมายได้ตัดถ้อยคำที่ผูกมัดเกี่ยวกับขนาดของกิจการออกไปทั้งหมด เช่น ตัดคำว่า “ระดับ 5 ดาว” ออกจากคำว่าโรงแรม ตัดคำว่า “ครบวงจร” ออกจากคำว่าห้างสรรพสินค้า และตัดรายการศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่ ออกจากตัวเลือก ในบัญชีแนบท้าย
ไม่ได้กำหนดว่าสัดส่วนของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรมีได้ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ (มาตรา 11(8))
2. ยกอำนาจการตัดสินใจให้ “คณะกรรมการนโยบาย”
คณะกรรมการนโยบายประกอบด้วย นายกฯ , รองนายกฯ 1 , รมต.ตามตำแหน่ง 6 , ข้าราชการประจำ 4 และผู้ทรงคุณวุฒิที่นายกฯแต่งตั้ง ไม่เกิน 6 = 18 อรหันต์ (มาตรา 6)
จะตั้งที่ไหน จะเปิดที่ไหน จะเปิดขนาดไหน จะเก็บภาษีเท่าไร จะเก็บค่าใบอนุญาตจากผู้ประกอบการรายละเท่าไร ภายใต้มาตรา 11 มาตราเดียว คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจตัดสินใจ
จะให้กลุ่มธุรกิจใดทำ ไม่ต้องมีการประมูล ใช้ระบบอนุญาตโดยกรรมการนโยบาย
ไม่ต้องจัดให้มีการรับฟังความเห็นประชาชน (ความเดิมในมาตรา 50 ของร่าง พ.ร.บ.ที่เสนอโดย กมธ.ถูกตัดออก)
3. เรื่องเงินทองเขียนกำหนดขั้นสูงแต่ไม่กำหนดขั้นต่ำ
ใบอนุญาตครั้งแรกเก็บได้ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ใบอนุญาตรายปีเก็บได้ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท (มาตรา 11(6))
อัตราค่าธรรมเนียมของผู้มีสัญชาติไทยที่จะเข้ากาสิโนเก็บได้ไม่เกินครั้งละ 5,000 บาท (มาตรา 11(11))
4. ไม่ล็อกเงินรายได้เข้าแผ่นดิน
เงินได้จากค่าธรรมเนียมใบอนุญาตหลักพันล้าน เป็นทุนและทรัพย์สินของสำนักงานกำกับกิจการสถานบันเทิงครบวงจร เมื่อหักค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการต่าง ๆ เหลือเท่าใดให้นำส่งเข้าแผ่นดิน (มาตรา 24 วรรคท้าย)
นายธนากร ยังระบุว่าแค่นี้ช่องโหว่มากพอหรือยัง ซึ่งจริง ๆ มีมากกว่านี้ และนี่คือเหตุผลเบื้องต้นว่า เหตุใดเราจึงหยุด พ.ร.บ.ซ่อนแอบฉบับนี้ ที่เจตนาซุกกาสิโนไว้ใต้เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
ทีมข่าวการเมืองชุมชน………………………………………………………รายงาน
*******************************************************