ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของ นายณัฐวุฒิ ปงลังกา หรือ นัทปง นักข่าวชื่อดังช่อง 8 วัย 35 ปี ซึ่งถูกพบเสียชีวิตภายในบ้านพักย่านบางกรวย จังหวัดนนทบุรี โดยผลชันสูตรล่าสุดจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า พบสารพิษไซยาไนด์ ในกระแสเลือดและกระเพาะอาหาร สร้างแรงสั่นสะเทือนในสังคมและทำให้คดีนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
ล่าสุด นายรพี ชำนาญเรือ หรือที่รู้จักในฉายา “มือปราบไซยาไนด์” ได้ให้สัมภาษณ์เปิดมุมมองต่อคดีนี้ โดยย้ำว่า การเสียชีวิตของน้องนัทปง “ไม่ใช่เรื่องปกติ” อย่างแน่นอน
นายรพีระบุว่า จากข้อมูลการพบสารพิษในร่างกายผู้ตาย เชื่อว่าเป็นคดีที่มีความผิดปกติอย่างชัดเจน พร้อมทั้งกล่าวตำหนิหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลการซื้อขายสารพิษว่า “ล้มเหลว” เนื่องจากหลังจากเหตุการณ์คดีไซยาไนด์ครั้งใหญ่ในปี 2566 ก็ยังคงเกิดเหตุลักษณะนี้ซ้ำอีก ทั้งคดีเสี่ยต้น และคดีชาวต่างชาติที่เสียชีวิตในโรงแรม
นายรพีกล่าวว่า
“การกำกับดูแลสารพิษไซยาไนด์ของหน่วยงานรัฐล้มเหลวครับ เพราะเกิดเหตุซ้ำหลายครั้ง การควบคุมยังไม่เข้มแข็งเพียงพอ”
สำหรับกรณีของน้องนัทปง นายรพีชี้ว่า หากผลสอบชัดเจนว่าเป็นการฆาตกรรม ผู้ลงมือ “ต้องเป็นคนใกล้ตัว” และมีการวางแผนล่วงหน้า เนื่องจากสารพิษไซยาไนด์เป็นสารที่ออกฤทธิ์เร็วและยากต่อการตรวจสอบ ผู้กระทำต้องอาศัยประสบการณ์และความรู้เพียงพอในการกลบหลักฐาน
“ลักษณะการลงมือแบบนี้ ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ เพราะต้องปิดหลักฐานให้หมด แต่ยังไงก็ต้องมีร่องรอยเหลืออยู่ โดยเฉพาะหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์” นายรพีกล่าว
เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า การพบไซยาไนด์ในเลือดบ่งชี้ว่า อาหารมื้อสุดท้ายของผู้ตายมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต้องตรวจสอบว่า
ผู้ตายกินอะไร
ใครเป็นผู้นำอาหารมาให้
หรือถูกวางไว้อย่างเจาะจงก่อนหน้า
นายรพีย้ำว่า หากเป็นคดีฆาตกรรมโดยใช้ไซยาไนด์ ผู้ก่อเหตุจะต้องได้รับโทษ “ประหารชีวิต” ตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นการวางยาพิษที่มีการเตรียมการล่วงหน้าและตั้งใจให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
พร้อมทิ้งท้ายว่า
“หลักฐานต้องร้อยเรื่องให้ถึงกันทุกจุด ถ้าขาดตอนเพียงหนึ่งอย่าง คดีจะหลุดทันที”
สังคมยังคงจับตาว่า เหตุการณ์นี้คือ อุบัติเหตุ – การฆ่าตัวตาย – หรือเป็นการฆาตกรรมอำพราง ที่มีความซับซ้อนเบื้องหลัง ซึ่งต้องรอผลการสืบสวนจากเจ้าหน้าที่ต่อไป
/ญาณภัทร ศิลปะขจร // จ.กาญจนบุรี 082-1961655
