การแต่งตั้ง..สว.หลังคสช.ยึดอำนาจ 22 พฤษภาคม 2557 แก้รัฐธรรมหลายคณะจบที่ รัฐธรรมนูญฉบับ มีชัย ฤชุพันธุ์ ที่เอื้องประโยชน์ให้มากที่สุด การดำรงตำแหน่งอยู่ได้ 2 สมัย ( 8 ปี) การเลือกนายกรัฐรัฐมนตรี ต้องใช้เสียงจากสส. 500 และสว. 250 เสียง ผู้ถูกเสนอชื่อต้องได้เสียงกึ่งหนึ่ง 376 เสียงขึ้นไป
เมื่อรัฐบาลคสช.ที่ยึดอำนาจมาจากรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มองแล้วได้เปรียบจึงประกาศเลือกตั้งครั้งแรกในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 เพื่อให้นานาประเทศได้มองภาพประเทศไทย ว่าหลังจากยึดอำนาจได้คืนประชาธิปไตยให้ประชาชนได้ตัดสินใจในการเลือกตั้ง หลังคสช.เตรียมการให้มีการเลือกตั้ง 2 มีนาคม 2561 ได้จดทะเบียนก่อตั้ง พรรคพลังประชารัฐ โดยมี อุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรค
เมื่อถึงวันเลือกตั้งอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562 พรรคพลังประชารัฐ มีชื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรี ก่อนวันเลือกตั้งมีหลายพรรคการเมืองหากได้รับการเลือกตั้งจะไม่ขอร่วมจัดตั้งรัฐบาลคสช.ที่ปล้นอำนาจมาเช่น เพื่อไทย ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ฯลฯ ส่งผลให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่แหกคอกไปร่วมจัดตั้งรัฐบาล เช่นกันก่อนวันเลือกตั้งสว.จะเป็นกลาง สนับสนุนพรรคการเมืองที่สามารถรวมคะแนนได้มากกว่าก็จะยกมือให้
ผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ได้อันดับ 1 พลังประชารัฐ อันดับ 2 อนาคตใหม่อันดับ3ภูมิใจไทย อันดับ 4ประชาธิปัตย์ อันดับ 4 แทนที่พรรคเพื่อไทยได้อันดับ 1 มีสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลพรรคพลังประชารัฐตัดหน้าชิงจัดตั้งรัฐบาล ไปดึงภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ชาติพัฒนา และอีกหลายพรรคการเมืองรวมได้ 251 เสียง ด้วยเสียงที่รวมได้คงยากต่อการบริหารบ้านเมือง พลังประชารัฐไม่สนใจเมื่อมีเสียง สว.อยู่ในมือ 250 เสียง
ก่อนจัดตั้งรัฐบาลพลังประชารัฐ ยอมเสียตำแหน่งประธานรัฐให้พรรณประชาธิปัตย์ กระทรวงเกรดเอให้ภูมิใจไทย ไม่ว่ากระทรวงสาธารณสุข คมนาคมหรือ กระทรวงพาณิชย์มอบให้ประชาธิปัตย์ผลการเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนนจากสส. 251 เสียง สว. 249 เสียง งดออกเพียง 1 เสียง คือเสียงประธานสว.
หลักการบริหารประเทศด้วย 251 เสียงคงยากสว.ก็รู้ หากไม่มีการแจกกล้วยดึงสส.งูเห่าจากหลายพรรคเพื่อความอยู่รอด ในที่สุดบริหารมาครบ 4 ปีก่อนยุบสภาให้มี
การเลือกตั้งในปี 2566 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประการมีความซื่อสัตย์สุจริต ภาพนอกไม่มีใครยั่งรู้ นอกตอจะผุดหลังหมดอำนาจแต่ภาพการแจกกล้วยในสภามีให้เห็นหรือประชาชนกินหญ้า หรือการแจกกล้วยเพื่อขาติให้ง่ายต่อการบริหารประเทศ
การเลือกตั้งปี 2562 พรรคพลังประชารัฐตั้งเป้าต้องได้อันดับ 1 แต่มาได้อันดับ 2 ทั้งๆ เป็นต่อที่ยังรักษาการณ์รัฐบาลมาจากคสช. การพ่ายแพ้เป็นบทเรียนก่อนประกาศการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 พลังประชารัฐ มีวาทะระหว่างพล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ กับ พล.อ.ประยุทธฺ์ จันทร์โอชา จริงหรือสร้างภาพ แยกก่อตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ หวังรวมอำนาจขั้วเดิมมาจัดตั้งรัฐบาล การเลือกตั้งผิดคาด พรรคก้าวไกล ที่มาจากอนาคตใหม่ที่ถูกยุบพรรค ได้มาอันดับ 1เพื่อไทยได้อันดับ 2 ที่ร่วมกับอึก 6 พรรคการเมืองได้ถึง 312 เสียง ขั้วอำนาจเก่ารวมได้เพียง188 เสียง ถึงขั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี ประกาศเลิกเล่นการเมือง เก็บข้าวของกลับบ้านรอรัฐบาลชุดใหม่ สร้างภาพหรือจริง? การเมืองที่ผ่านมาพรรคอันดับ 1 มีความชอบในการจัดตั้งรัฐบาล ยิ่ง 312 เสียงถือว่าปลอดภัยแต่กลับอำนาจ สว.-คสข.ขวางจริงหรือ? อ้างก้าวไกลจะแก้ ม.112 ส่อล้มสถาบัน
หันไปดูพรรคการเมืองที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาลเช่นประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยฯลฯ มีนโยบายเคยประกาศปิดสวิตช์สว. หากจะปิดจริงคงทำได้ ด้วยผลประโยชน์? หรือกลัวโดนตรวจสอบหลังพ้นอำนาจต่างบอกเสียงเดียวไม่ขอร่วมกับพรรคก้าวไกลที่มีนโยบายแก้ ม.112 ตามด้วยหากมีก้าวไกลไม่ขอร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ใคร ? อยู่เบื้องหลังอำนาจมืด ที่ถือเสียง สว.200 คน หากให้ก้าวไกล-เพื่อไทย กับ 6 พรรคการเมืองจับมือให้แน่นเหมือนข้าวต้มมัด รอถึงเดือนพฤษภาคม 2567 รอให้สว.คสช.พ้นวาระคงทำได้รัฐบาลรักษาการณ์คงสะใจที่ยังอยู่แบบอำนาจมีขีดจำกัด
ใคร? อยู่เบื้องหลังในเกมนี้ บ้านเมืองจะอยู่อย่างได้ 4 ปีแรกบริหารแบบยึดอำนาจ 4 ปีหลังบริหารแบบยกกระทรวงหลักให้ต่างพรรค ยากต่อการตรวจสอบ ปล่อยเถอะเมื่อก้าวไกลได้อันดับ 1 รวม 7 พรรคการเมือง 312 เสียงที่ไม่มีต้นทุนแจกกล้วย หากวางแผนให้เพื่อไทยหักดิบจับมือขั้วอำนาจเก่า บ้านเมืองจะอยู่ในสภาพใดหรือต้องการเห็นภาพเมื่อเจ้าหน้าเอาไม่อยู่ ส่งทหารมาควบคุมยึดอำนาจ เหมือนประเทศเมียนมาร์ เศรษฐกิจตกต่ำมีให้เห็น
เทพหน้าดำ/การเมืองชุมชน