กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3
กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายอนุชาฯ อายุ 26 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 379/2566 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2566โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์”
จับกุมได้ที่ บริเวณวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ถึง วันที่ 23 พฤษภาคม 2565 ขณะที่ผู้เสียหาย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี กำลังใช้งานเฟซบุ๊กของตนเองที่บ้านพัก ได้มีคนร้ายมาขอเป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนหนังสือชักชวนพูดคุยกับผู้เสียหายเรื่อยมา จนผู้เสียหายเชื่อสนิทใจว่าเป็นเพื่อนเก่าสมัยเรียนหนังสือที่ไม่ได้ติดต่อกันนานแล้ว
จากนั้นคนร้ายได้ชักชวนให้ผู้เสียหายลงทุนรับแลกเงินเหรียญต่างประเทศ มีเงินตอบแทนสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นเพื่อนสมัยเรียนจริง จึงร่วมลงทุนไปตามที่คนร้ายสร้างเรื่องขึ้นมา โดยคนร้ายให้หมายเลขบัญชีธนาคารชื่อนายอนุชาฯ เพื่อโอนเงินร่วมลงทุน จากนั้นผู้เสียหายจึงโอนเงินไปร่วมลงทุนกับคนร้ายในช่วงแรกสามารถทำกำไรได้ตามที่อ้าง สามารถถอนเงินออกมาจากระบบได้
ต่อมาผู้เสียหายจึงโอนเงินไปลงทุนมากขึ้น จากหลักหมื่นบาทเป็นหลักแสนบาท ปรากฏว่าเมื่อจะถอนเงินออกมาไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยคนร้ายอ้างว่าผู้เสียหายทำผิดขั้นตอนของระบบต้องเติมเงินเข้าไปในระบบก่อนจึงจะถอนเงินออกมาได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงโอนเงินไปรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,883,824 บาท จากนั้นไม่สามารถติดต่อเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวได้อีกเลย จึงเชื่อว่าตนเองถูกหลอกเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า ได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลธัญบุรี เพื่อติดตามจับกุมตัวนายอนุชาฯ เจ้าของบัญชีมาดำเนินคดี
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้สืบสวนทราบว่านายอนุชาฯ ทำงานเป็นช่างรับเหมาก่อสร้างกำลังมารับเหมาก่อสร้างที่วัดแห่งหนึ่ง ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบนายอนุชาฯ กำลังก่อสร้างศาลาภายในวัดดังกล่าว จึงจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายอนุชาฯ ให้ภาคเสธว่าตนเองไม่ใช่เจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าว ที่ไปหลอกลวงผู้เสียหาย แต่ยอมรับว่าตนเองไปเปิดบัญชีม้ามาประมาณ 10 บัญชี เนื่องจากแฟนสาวของตนเองมาขอร้องให้เปิดบัญชีให้ โดยบอกว่าจะนำไปขายของออนไลน์ต้องใช้สมุดบัญชีหลายๆ บัญชีเ พื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ ตนเองเห็นว่า
ช่วยแฟนหารายได้จึงไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมีหมายเรียกมาที่บ้านพักตนเองหลายฉบับในคดีฉ้อโกง จึงทราบว่าแฟนสาวเอาบัญชีตนเองไปขายได้เงินมาบัญชีละ 2,000 บาท จนถูกจับกุมในวันนี้