ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบ 3 หนุ่มลักลอบพกปืนเถื่อน พบอาวุธปืน 5 กระบอก พร้อมกระสุนกว่า 200 นัด

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.บก.ปปป. (รรท.ผบก.ทล.), พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.กปภ.(รรท.ผกก.2 บก.ทล.), พ.ต.ท.วิศิษฏ์ มินเสน รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.6 บก.ปปป.(รรท.รอง ผกก.2 บก.ทล.), พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.อำนาจ สีนวล, ร.ต.อ.พงษ์เชษฐ์ นุ่มมาก รอง สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล., หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงด่านช้าง และหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงไทรโยค

ร่วมกันจับกุม

1. นายประวิชศิลป์ฯ อายุ 57 ปี

2. นายธนกฤตฯ อายุ 24 ปี

3. นายธนธัชฯ อายุ 29 ปี

พร้อมตรวจยึดของกลาง ดังนี้

1. อาวุธปืนยาว ยี่ห้อรูเกอร์ ชนิด เดี่ยวลูกกรด ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (แยกชิ้นส่วนเป็น 2 ส่วน คือ ลำกล้อง และชุดลั่นไก) พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน รวม 158 นัด

2. อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อโคลต์ ชนิดออโตเมติก ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 11 มม. จำนวน 18 นัด

3. อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อซิก ซาวเออร์ ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองปืนแบบพกนอก สีดำ จำนวน 1 อัน พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด

4. อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ยี่ห้อ Smith & Wesson ขนาดเบอร์ .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองพกในสีดำ จำนวน 1 อัน พร้อมเครื่องกระสุนปืน ยี่ห้อ Bullet Master ขนาด .38 จำนวนรวม 10 นัด

5. อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ GLOCK รุ่น 43 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน ยี่ห้อ GLOCK ขนาด 9 มม. จำนวน 2 อัน

6. เครื่องกระสุนปืน ยี่ห้อ NRC ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 7 นัด

7. ซองผ้าพกใน สีดำ จำนวน 1 ซอง พร้อมกระเป๋าผ้าสะพายข้าง สีดำ จำนวน 1 ใบ

สถานที่จับกุม

1. จุดตรวจกวดขันวินัยจราจร, จุดตรวจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม บริเวณทางหลวงหมายเลข324 กม.48+600 ต.จระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี (จับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.6 กก. บก.ทล.)

2. ทางหลวงหมายเลข 3468 กม.6+500 ม.7 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี (จับกุมโดยหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงด่านช้าง)

3. ทางหลวงหมายเลข 323 กม.51+200 (ขาเข้า กทม.) ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี (จับกุมโดยหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงไทรโยค)

พฤติการณ์ สถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระดมกวาดล้างความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด ในพื้นที่รับผิดชอบจังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดสุพรรณบุรี และได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ได้ตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร, จุดตรวจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม บริเวณทางหลวง 324 กม.48+600 ต.จระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ขณะปฏิบัติหน้าที่ พบรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว จากการสอบถามผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวทราบชื่อ นายประวิชศิลป์ฯ เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงทำการตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่

ปรากฏว่านายประวิชศิลป์ฯ มีใบอนุญาตขับรถถูกต้อง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สังเกตว่า นายประวิชศิลป์ฯ มีลักษณะเร่งรีบ แสดงอาการน่าสงสัยว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงเป็นเหตุอันควรสงสัย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงาน แสดงเจตนาเพื่อขอทำการตรวจค้นตัว โดยนายประวิชศิลป์ฯ รับทราบและยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้น ก่อนการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ดูจนเป็นที่พอใจ ผลการตรวจค้นตัวนายประวิชศิลป์ฯ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ชุดจับกุม ได้ขอตรวจค้นภายในรถยนต์คันดังกล่าว โดยก่อนการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ดูจนเป็นที่พอใจ ผลการตรวจค้น พบกระเป๋าสีดำ ภายในกระเป๋ามีอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก ดังนี้

1. อาวุธปืนยาว ยี่ห้อรูเกอร์ ชนิด เดี่ยวลูกกรด ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก (แยกชิ้นส่วนเป็น

2 ส่วน คือ ลำกล้อง และชุดลั่นไก) พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน รวม 158 นัด

2. อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อโคลต์ ชนิดออโตเมติก ขนาด 11 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด 11 มม. จำนวน 18 นัด

3. อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อซิก ซาวเออร์ ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 12 นัด

สอบถาม นายประวิชศิลป์ฯ รับว่าอาวุธปืน พร้อมด้วยของกลางดังกล่าวนั้น อยู่ในความครอบของตนเองจริง โดยนายประวิชศิลป์ฯ ให้การว่า ตนเป็นผู้ซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวด้วยตนเอง

ในขณะเดียวกัน หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงด่านช้าง ได้ทำการสืบสวนทราบว่ามีบุคคลในพื้นที่รับผิดชอบมักจะมีพฤติการณ์พกพาอาวุธปืนไว้ในรถยนต์ ไปในเมืองหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร

จึงได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง ต่อมารถวิทยุตรวจการณ์คันหมายเลขข้าง 2604 ได้ออกตรวจสืบสวนในพื้นที่ มาถึง ทล.3468 กม.6+500 ม.7 ต.บ้านโข้ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี พบรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นรีโว่ จึงได้ตรวจสอบผ่านระบบ Crimes ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ารถยนต์คันนี้ ไม่ได้ชำระภาษีประจำปี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุดและเพื่อจะได้ทำการตรวจค้น จากการสอบถามผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวทราบชื่อ นายธนกฤตฯ เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงทำการตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ ปรากฏว่านายธนกฤตฯ มีใบอนุญาตรถยนต์ถูกต้อง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สังเกตว่า นายธนกฤตฯ มีลักษณะพิรุธ ตัวสั่น แสดงอาการน่าสงสัยว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงเป็นเหตุอันควรสงสัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงาน แสดงเจตนาเพื่อขอทำการตรวจค้นตัว โดยนายธนกฤตฯ รับทราบและยินยอม ก่อนการตรวจค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ดูจนเป็นที่พอใจ ผลการตรวจค้นพบ

1. อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ยี่ห้อ Smith & Wesson ขนาดเบอร์ .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองพกใน สีดำ จำนวน 1 อัน และเครื่องกระสุนปืน ยี่ห้อ Bullet Master ขนาด .38 จำนวนรวม 10 นัด

นายธนกฤตฯ รับว่าอาวุธปืนพร้อมด้วยเครื่องกระสุน ของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริงโดยนายธนกฤตฯ ให้การว่าได้ซื้อปืนและเครื่องกระสุนมาจากเพื่อน ซึ่งตกลงซื้อขายกันในราคา 30,000 บาท

และในเวลาต่อมา หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงไทรโยค ซึ่งได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง ต่อมารถวิทยุคันหมายเลขข้าง 2624 ออกตรวจสืบสวนผู้กระทำความผิด มาถึงบริเวณทางหลวงหมายเลข 323 กิโลเมตรที่ 51-52 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี พบรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ขับขี่มาความเร็ว ลักษณะต้องสงสัยอาจจะมีสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ทำสัญญาณจราจรเพื่อตรวจสอบ จากการสอบถามผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวทราบชื่อ นายธนธัชฯ เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงทำการตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ ปรากฏว่านายธนธัชฯ มีใบอนุญาตขับขี่ถูกต้อง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สังเกตว่า นายธนธัชฯ มีลักษณะพิรุธ ตัวสั่น แสดงอาการน่าสงสัยว่าจะมีสิ่งผิดกฎหมายซุกซ่อนอยู่ จึงเป็นเหตุอันควรสงสัย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงแสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงานเพื่อขอทำการตรวจค้นตัว

โดยนายธนธัชฯ รับทราบและยินยอม ก่อนการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ดูจนเป็นที่พอใจ ผลการตรวจค้นพบ

1. อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ GLOCK รุ่น 43 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมด้วย แม็กกาซีน ยี่ห้อ GLOCK ขนาด 9 มม. จำนวน 2 อัน และเครื่องกระสุนปืน ยี่ห้อ NRC ขนาด 9 มม. LUGER จำนวน 7 นัด บรรจุอยู่ในซองอาวุธปืนพกในแบบผ้า สีดำ ซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าผ้าสะพายข้าง สีดำ

พบอาวุธปืนดังกล่าว วางอยู่ที่พักเท้าที่นั่งผู้โดยสาร ด้านหลังของผู้ขับขี่ สอบถามนายธนธัชฯ

รับว่าอาวุธปืน พร้อมด้วยของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยนายธนธัชฯ ให้การว่าได้ซื้ออาวุธปืนมาจากห้างปืนอินโดไทย ที่อยู่ 23-25 ถนน บูรพา แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 โดยได้ซื้อมาในราคา 140,000 บาท

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. จึงได้แจ้งให้ผู้ถูกจับกุม ทั้ง 3 ราย ทราบว่าจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีในฐานความผิด “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์” พร้อมแจ้งสิทธิของผู้ถูกจับกุมให้ทราบ

จึงได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับกุม พร้อมด้วยของกลาง มาจัดทำบันทึกจับกุม จากนั้นนำตัวผู้ถูกจับกุมส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว อยู่ในความครอบครอง ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จริงเตือนภัย การครอบครองอาวุธปืนนั้น ต้องมีการขออนุญาตต่อนายทะเบียนให้ถูกต้อง และการพกพาอาวุธปืนไปในมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนนั้น มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ