เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(บก.ปคม.) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม.สั่งการ พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ปันไชย ผกก.1 บก.ปคม. พ.ต.ต.ธนกร จาวรุ่งวณิชสกุล สว.(สอบสวน)กก.1 บก.ปคม. และพ.ต.ต.หญิง รัชฏาวรรณ สีไพสน สว.กก.1 บก.ปคม.นำกำลังร่วมจับกุมนายศักดากิจ อายุ 43 ปี นายคำสะหวัด อายุ 30 ปี สัญชาติลาว ในความผิดฐาน “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ และถ้าผู้ที่สมคบกัน
กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดตามที่ได้สมคบ , ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์ฯ” โดยเป็นธุระจัดหาฯ” และนายอนุชา อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 3652/66 ลงวันที่ 25 ต.ค.66 ข้อหา “สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สอง คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ , ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์ฯ” โดยจับกุมนายศักดากิจ พร้อมนายคำสะหวัดได้ที่ร้านนวดสปา ย่านลาดพร้าว กรุงเทพฯ ก่อนขยายผลจับกุมนายอนุชาได้ในพื้นที่เขตลาดพร้าว แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคม.ได้รับแจ้งจาก มูลนิธิเพื่ออิสรภาพ (The Exodus Road) ว่าพบร้านนวดบิ๊ก สปา ย่านลาดพร้าว เปิดเป็นร้านนวดบังหน้าและนำเด็กชายอายุต่ำกว่า 18 ปีมาค้าประเวณีโดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ว่ามีเด็กชายหน้าตาดี ให้บริการนวดอยู่ภายในร้าน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ร่วมกับ สน.โชคชัย และมูลนิธิฯได้วางแผนร่วมกันปฏิบัติการอำพรางเข้าตรวจสอบภายในร้านพบนายคำสะหวัดเป็นผู้ดูแลและนายศักดากิจเป็นผู้จัดการ โดยร้านเปิดให้บริการนวดผ่อนคลายในลักษณะแอบแฝงการค้าประเวณีเด็กชายสัญชาติเมียนมาอายุต่ำกว่า 18 ปี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมนำตัวเด็กชายดังกล่าวเข้าคุ้มครองตามกฎหมาย ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับนายอนุชา นายทุนผู้อยู่เบื้องหลัง จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว
สอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป