รวบ 2 โชเฟอร์รถพ่วงอันธพาลแพ้เสียงแตร ตบรถเล็กเสียหลักลงข้างทางบนถ.พระราม2

13

กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตํารวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้ การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปรท.รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม, พ.ต.อ.ภคพล สุชล รรท.ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.สงัด เบ้าทองรอง ผกก.ป สภ.เมืองสมุทรสงคราม, พ.ต.ท.วิศิษฏ์ มินเสน รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตน์ ยุวบูรณ์ รรท.รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.กฤตย์ ธีรเวศย์สุวรรณ รรท.สว.กก.2 บก.ทล. และ พ.ต.ต.กล้า สมบัติพิบูลย์ รรท.สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล.

คุมตัว 1. นายอภิเดชฯ อายุ 27 ปี 2. นายประวีณฯ อายุ 29 ปี

ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อดําเนินคดี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ขับรถไม่คํานึงถึง ความปลอดภัยของผู้อื่น”

พฤติการณ์ เนื่องจากกรณีท่ีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวโพสต์ภาพคลิปกล้องหน้ารถ ขณะที่กําลังขับรถอยู่บนถนน เส้นพระราม 2 ก่อนจะมีรถบรรทุกพ่วง จํานวน 2 คันพยายามขับรถปาดหน้ารถยนต์ผู้เสียหายตลอดเวลา ใน ลักษณะตบให้รถยนต์ของผู้เสียหายซึ่งเป็นรถเล็กเสียหลักจนต้องหักหลบลงข้างทาง

เมื่อตรวจสอบพบว่าเป็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 28 ต.ค.66 เวลาประมาณ 12.40 น. บนถนนพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ เขต พื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ต่อมา เจ้าหน้าท่ีตํารวจ ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. (ตํารวจทางหลวงนครปฐม) ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อให้ทําการสืบสวนติดตามตัวผู้ขับขี่ รถบรรทุกพ่วง ทั้ง 2 ราย ที่ก่อเหตุดังกล่าว

กระทั่งเมื่อวันท่ี 30 ต.ค.66 (วันนี้) เวลาประมาณ 16.30 น. เจ้าหน้าที่ตํารวจทางหลวงนครปฐมได้สืบ ทราบหมายเลขทะเบียนของรถบรรทุกพ่วงที่ก่อเหตุทั้ง 2 คัน ทราบว่าเป็นรถบรรทุกของผู้ประกอบการราย หนึ่งในพื้นที่ อ.ปากท่อ จ.สมุทรสงคราม

จึงได้ประสานเข้าไปตรวจสอบขอข้อมูลของผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงที่ ก่อเหตุทั้ง 2 คัน พบว่า ในวันและเวลาที่เกิดเหตุ มี นายประวีณฯ และ นายอภิเดชฯ เป็นผู้ขับขี่ จึงได้เชิญตัวผู้ ขับขี่ทั้ง 2 ราย เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และดําเนินคดี ในข้อหา “ขับรถไม่คํานึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น”

สอบถามคําให้การเบื้องต้น ผู้ขับขี่รถบรรทุกพ่วง ทั้ง 2 ราย ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ขับขี่รถบรรทุก พ่วงทั้ง 2 คันจริง โดย นายอภิเดชฯ ระบุว่า ตนได้ขับขี่รถบรรทุกพ่วงคันที่หนึ่ง มาตามถนนพระราม 2 ขาออก กรุงเทพฯ จนเมื่อมาเจอกับรถยนต์ของผู้เสียหาย รถยนต์ผู้เสียหายได้พยายามที่จะขับแซงรถบรรทุกพ่วงของ ตนขึ้นมาทางด้านซ้ายแต่แซงไม่พ้นก่อนที่ผู้เสียหายจะบีบแตรใส่รถบรรทุกพ่วงของตนตนจึงเกิดความโมโหที่ ถูกบีบแตรใส่ จึงขับขี่รถบรรทุกพ่วงในลักษณะปาดหน้ารถยนต์ผู้เสียหายไปมา จนรถยนต์ของผู้เสียหายได้หัก หลบลงข้างทาง

ต่อมารถยนต์ของผู้เสียหายได้ขับตามมาทันอีกครั้ง ตนจึงได้โทรหานายประวีณฯ ซึ่งเป็นเพื่อน ร่วมงานที่ขับขี่รถบรรทุกพ่วงติดตามกันมา ให้มาช่วยกันขับขี่ปาดหน้ารถยนต์ของผู้เสียหายอีกครั้ง จนรถยนต์ ของผู้เสียหายเสียหลักต้องหักหลบลงข้างทาง(ตามทปี่รากฎตามคลิป)

ตํารวจสอบสวนกลาง Youtube : ตํารวจสอบสวนกลาง

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 158/1 ผู้ใดขับรถในลักษณะที่เห็นได้ว่าไม่คํานึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่นต้องระวางโทษ

มาตรา 43 (8) ประกอบมาตรา จําคุก ไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ