สองสามีภรรยาเจ้าของโรงงานเครื่องจักรสมุทรสาคร ร้องกองปราบ ติดตามความคืบหน้าคดีถูกอุ้มเรียกค่าไถ่

20

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายธมนันท์ แตงทิม หรือ “จ่าคิงส์ สะพานใหม่” พา นายประพันธ์ (สงวนนามสกุล) พร้อมนางสาคร (สงวนนามสกุล) ภรรยา เจ้าของโรงงานเครื่องจักรและเครื่องปรุงรสชาติใน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เดินทาเงข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เพื่อขอให้ช่วยติดตามความคืบหน้าคดี ถูกอุ้มตัวไปกักขังหน่วงเหนี่ยวและเรียกค่าไถ่ 4 ล้านบาท หลังเคยเข้าแจ้งไว้ที่ สภ.กระทุ่มแบน แต่กลับไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร

นายประพันธ์ กล่าวว่า ตนกับภรรยาทำธุรกิจรับซ่อมเครื่องจักร ก่อนจะขายโรงงานต่อให้กับ น.ส.กนกพร (สงวนนามสกุล) นายทุนรายใหม่ในราคา 35 ล้านบาท ซึ่งมีการจ่ายเงินแล้ว 33 ล้านบาท คงค้างอีก 2 ล้านบาท และอยู่ระหว่างโอนโรงงาน แต่ช่วงที่ตนกับภรรยาประกอบกิจการอยู่มียอดค้างค่าวัตถุดิบกับผู้จัดหาสินค้า (ซับพลายเออร์) ประมาณ 2 ล้านบาท จึงเจรจากับผู้ซื้อโรงงานต่อว่าให้จ่ายเงินจำนวนนี้ใช้หนี้แทนตน เพื่อให้ครบจำนวน 35 ล้าน แต่ระหว่างนั้นยังไม่ถึงรอบดีลที่จะต้องชำระหนี้

กระทั่งวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ น.ส.กนกพร ได้เรียกให้ตนไปพบที่โรงงาน อ้างว่าให้มาซ่อมเครื่องจักรก่อนส่งมอบโรงงาน แต่พอไปถึงกลับถูก น.ส.กนกพรและกลุ่มซับพลายเออร์ที่เป็นเจ้าหนี้ 7-8 คน รวมหัวกันพาไปกักขังไว้ในห้องทำงานก่อนข่มขู่เรียกเงินค่าวัตถุดิบที่ยังคงค้างอยู่อีก 2 ล้านบาท และบังคับให้จ่ายในวันนั้น ถ้าไม่จ่ายจะไม่ปล่อยตัวออกจากโรงงาน และยังข่มขู่ไปถึงลูกสาวและครอบครัว

นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ตนจึงโทรศัพท์หานางสาคร ภรรยา ให้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาให้ที่โรงงาน ระหว่างนั้นนางสาครได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจว่าสามีถูกขังที่โรงงาน แต่พอไปถึงนางสาครกลับถูกจับเข้าไปขังรวมกับตนด้านใน ก่อนที่จากนั้นไม่นานเข้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจก็เดินทางมาถึง แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เพราะกลุ่มซัพพลายเออร์อ้างว่าถ้าไม่มีหมายค้นก็จะไม่ให้เข้าไปข้างใน สายตรวจจึงกลับไป

นางสาคร กล่าวว่า ขณะเดียวกันในช่วงที่มีการเจรจาหาข้อตกลง ตนและสามี ได้ทวงเงินค่าโรงงานจาก น.ส.กนกพรที่ยังคงค้างอีก 2 ล้านบาท แต่กูถูก น.ส.กนกพร ปฏิเสธไม่ยอมจ่าย ทั้งยังโทรศัพท์หาอัยการคนหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ถามว่ามีลูกปืนเหลือไหม ทำให้ตนและสามีรู้สึกหวาดกลัวและกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย จึงยอมจ่ายเงินใช้หนี้ให้กลุ่มซัพพลายเออร์ทั้งหมดจนได้รับการปล่อยตัวในช่วงเย็นวันเดียวกัน

นางสาคร กล่าวต่อว่า หลังเกิดเรื่องจึงว่าจ้างทนายความดัง อักษรย่อ ต.เต่า 1 แสนบาท เพื่อฟ้องร้องน.ส.กนกพรและพวกในคดีอาญาเกี่ยวกับความผิดที่กักขังหน่วงเหนี่ยวและคดีแพ่งที่ น.ส.กนกพรจะต้องใช้หนี้ค่าโรงงานในส่วนที่เหลือ แต่ทนายดังคนดังกล่าวเงียบหายไป ติดต่อไม่ได้ จึงไปแจ้งความที่ สภ.กระทุ่มแบน วันที่ 22 ก.พ.แต่ผ่านมาจนถึงตอนนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า จึงตัดสินใจเดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบเพื่อให้ช่วยติดตามความคืบหน้าของคดี

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ร้องทั้งสอง พร้อมประสานไปยัง สภ.กระทุ่มแบน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงรายละเอียดทางคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก่อนประมวลเรื่องราวส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป