แฉเครือข่าย ASIA HUB ใช้บอท–คริปโทฯ รับจ่าย แพร่ระบาดในเมืองท่องเที่ยว ก่อนหนีซุกเกาะสมุย
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว, พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์, พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า, พล.ต.ต.วรพจน์ ดิษยบุตร และ พล.ต.ต.ธีระ ทองระยับ ผบก.ปส.4 สั่งการให้ชุดปฏิบัติการนำโดย พ.ต.อ.สรวิศ เสมอใจ ผกก.2 บก.ปส.4 เร่งสืบสวนและขยายผลคดีค้ายาเสพติดรูปแบบใหม่ หลังได้รับการประสานจาก นายเฉลิมพงศ์ แสงดี ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ที่ออกมาเตือนภัยเรื่อง “ยาเสพติดยุคดิจิทัล” ระบาดในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของไทย
เปิดโปงเครือข่าย “ASIA HUB” ค้ายาผ่านบอท-จ่ายเงินด้วยคริปโทฯ
ผลการสืบสวนพบรูปแบบการค้ายาเสพติดยุคใหม่ โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้ใช้ระบบ “บอทเทเลแกรม” (Telegram Bot) ภายใต้ชื่อ “ASIA HUB” เป็นช่องทางรับคำสั่งซื้อยาเสพติด พร้อมระบบจ่ายเงินผ่าน กระเป๋าคริปโทเคอร์เรนซี (Crypto Wallet) โดยมีการโฆษณาผ่าน สติ๊กเกอร์คิวอาร์โค้ด (QR Code) ติดตามเสาไฟฟ้าและสถานที่สาธารณะในย่านท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ด ผู้ใช้จะถูกนำเข้าสู่แอปบอท ASIA HUB ซึ่งมีภาพหญิงสาวถือถุงผงสีขาวลักษณะคล้ายยาเสพติด พร้อมข้อความเสนอขายยาเสพติดหลายประเภท ทั้ง “ไอซ์” และ “โคเคน” โดยมีพื้นที่ให้เลือกส่งสินค้า เช่น กรุงเทพฯ, พัทยา, สมุย, พงัน, ภูเก็ต และบาหลี
ล่อซื้อกลางเกาะสมุย – รวบคาหนังคาเขา
เจ้าหน้าที่ ปส.4 สามารถระบุตัวผู้เผยแพร่คิวอาร์โค้ดได้ว่า คือ นายเซเมียน กัสพายาน (Mr. Semen Kasparian) อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย ผู้ถือหนังสือเดินทางเลขที่ 771807724 ซึ่งหลบหนีจากจังหวัดภูเก็ตไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เจ้าหน้าที่จึงจัดสายลับทำการ ล่อซื้อยาเสพติดผ่านบอทเทเลแกรม โดยสั่งยาไอซ์ 1 กรัม ราคา 65 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,100 บาท) นัดรับส่งกันในพื้นที่เกาะสมุย จนกระทั่งวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายเซเมียนฯ ได้พร้อมของกลางยาไอซ์ 1 กรัม
เบื้องต้นแจ้งข้อหา
“จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต”
“โฆษณาเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.1041/2568 ลงวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568
ของกลางทั้งหมดส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เชิงทะเล จ.ภูเก็ต ดำเนินคดี
ขยายผลพบคลังยาเพิ่ม 28 ถุง – เครือข่ายโยงข้ามจังหวัด
จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา พบข้อมูลพิกัดสถานที่และบทสนทนาในแอปเทเลแกรม ระหว่างนายเซเมียนฯ กับผู้สั่งการ ซึ่งสั่งให้ไปรับยาเสพติดในพื้นที่เกาะสมุยเพื่อลำเลียงขึ้นเหนือไปยังจังหวัดเชียงใหม่ แต่ผู้ต้องหาไม่ได้ปฏิบัติตาม
เจ้าหน้าที่ชุด ปส.4 จึงเข้าตรวจค้นจุดดังกล่าว พบของกลางเพิ่มอีกจำนวนมาก ได้แก่
ยาไอซ์ 27 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 28 กรัม
โคเคน 1 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 24 กรัม
ทั้งหมดถูกตรวจยึดและส่งมอบให้ พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินคดี พร้อมเร่งขยายผลเชื่อมโยงเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติที่อยู่เบื้องหลัง
“ผู้กำกับทศ” ย้ำ เดินหน้าปราบยาเสพติดมิติใหม่
ด้าน พ.ต.อ.สรวิศ เสมอใจ ผกก.2 บก.ปส.4 เปิดเผยว่า คดีนี้สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของขบวนการค้ายาเสพติดที่พัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ ใช้เทคโนโลยีและสกุลเงินดิจิทัลเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ ซึ่งสำนักงานตำรวจปราบปรามยาเสพติดได้ปรับยุทธวิธีรับมืออย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่าจะเร่งขยายผลไปถึงผู้บงการระดับบนให้ได้โดยเร็ว
********************
