สำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 แต่งตั้ง “คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยมีพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์
ผบ.ตร. เป็นคณะกรรมการ และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร., พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง จตช./รอง ผอ.ศปอส.ตร.ร่วมกันขับเคลื่อนการทำงานเพื่อยกระดับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีความซับซ้อนหลากหลายรูปแบบ และมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การพนันออนไลน์ การเผยแพร่ข่าวปลอมรวมถึงการ
ฟอกเงินโดยการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล จนนำมาสู่ผลการปฏิบัติในครั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 1 โดย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1,พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล , พ.ต.อ.พีรศักดิ์ รอดบน,พ.ต.อ.วิศิษฏ์ มะอักษร, พ.ต.อ.วิทิต จันทร์เอี่ยม รอง ผบก.สส.ภ.1 และ
พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง รอง ผบก.ช่วยราชการ บก.สส.ภ.1 เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุม กก.สส.2 บก.สส.ภ.1 นำโดย พ.ต.อ.นัฎฐพงษ์ ศรีเพ็ญประภา ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.1,พ.ต.ท.ปรัชญ์ อุปริกชาติพงษ์ รอง ผกก.สส.2ฯ , พ.ต.ท.ดนัยพร หาญกร รอง ผกก.สส.2ฯ , พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ หอมดี สว.กก.สส.2ฯ , ร.ต.อ.พิพัฒน์ สุดเส้นผม รอง สว.กก.สส.2 พร้อมกำลังเจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.ภ.1 ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.สระบุรี, พ.ต.อ.เกษดา วัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี, พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรีและ พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาน ผกก.สภ.เมืองสระบุรี นำการปฏิบัติการโดย พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรีพร้อมกำลังจนท.ตร.กก.สส.ภ.จว.สระบุรีร่วมกับจนท.ตร.สภ.เมืองสระบุรี ได้ร่วมกันปฏิบัติการตามมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และการปราบปรามเครือข่ายบัญชีม้า การปฏิบัติในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการประชุม War Room ของจังหวัดสระบุรี ผ่านกลุ่มไลน์ “ประสานงาน ตร., ธนาคาร –จว.สระบุรี” ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนเบาะแสและติดตามเครือข่ายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบัญชีม้าอย่างใกล้ชิด จนนำไปสู่การระบุตัวผู้ต้องหาและเข้าจับกุมได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 6 รายแบ่งเป็นกลุ่ม “รับจ้างเปิดบัญชี”และกลุ่ม “จัดหาบัญชีม้า”จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้1) กลุ่มรับจ้างเปิดบัญชี1. นายเสฏฐวุฒิ (สงวนนามสกุล)2. นายวิทยา(สงวนนามสกุล)-ข้อหา: เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีเงินฝากฯ โดยรู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี-ผิดตาม มาตรา 9 ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๖๖”2) กลุ่มจัดหาบัญชี/ ชักชวนบุคคลอื่นให้เปิดบัญชี3. นายวัฒนพงษ์ (สงวนนามสกุล)4. นายเสวก (สงวนนามสกุล)5. น.ส.อรุณวจี (สงวนนามสกุล)6. นางรัตนาภรณ์ (สงวนนามสกุล)
-ข้อหา: ชักชวน/ยินยอมให้ผู้อื่นเปิดหรือใช้บัญชีเงินฝากและเลขหมายโทรศัพท์ เพื่อใช้กระทำความผิด-ผิดตาม มาตรา 10 ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๖๖”ของกลางที่ตรวจยึด1. โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง2. สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม3. บัตร ATM จำนวน 7 ใบ4. รถยนต์ 1 คัน5. รถจักรยานยนต์ 1 คันผลการตรวจสอบข้อมูลเชื่อมโยงเครือข่ายในระบบ TPOจากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหาโดยเฉพาะของ นายวัฒนพงษ์ (สงวนนามสกุล) พบว่ามีหลักฐานการว่าจ้างเปิดบัญชีรวมทั้งสิ้น 20 บัญชีและพบความเชื่อมโยงกับบัญชีม้าตามระบบ TPO รวม 3 ราย ได้แก่1 น.ส.วิภาวรรณ (สงวนนามสกุล)• BBL / BAY มีการอายัดรวมหลายเคส• พบความเชื่อมโยงใน TPO Case ID:• T68073035122
สภ.เซกา ภ.4• T68072934211 สภ.ปากเกร็ด ภ.1ทั้ง 2 เหตุเป็นลักษณะ “หลอกประมูลนาฬิกา” (ความผิดประเภท 1)2 นายสุพัส (สงวนนามสกุล)• SCB 6762990741• ถูกยื่นอายัด 5 เคส• แต่ไม่พบเชื่อมโยงในระบบ TPO3 น.ส.กรกนก (สงวนนามสกุล)• BBL 9774853122• พบการอายัดในประสาน 1 เคส• พบความเชื่อมโยงใน TPO Case ID:• T68082226906 สน.ทองหล่อ บก.น.5(หลอกจองที่พัก –ความผิดประเภท 1)- ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พ.ย.68 จนท.ตร.กก.สส.ภ.จว.สระบุรี ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นบ้านของ น.ส.สีสุดา (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างกลุ่มจัดหา/ชักชวนให้เปิดบัญชี ผลการปิดล้อมตรวจค้น ได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางได้ ดังนี้1.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Oppo สีดำ จำนวน 1 เครื่อง2. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Samsung สีน้ำเงิน จำนวน 1 เครื่อง3. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Samsung สีเขียว จำนวน 1 เครื่อง4. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Samsung สีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง5.สมุดบัญชี ธ.ออมสิน เลขที่บัญชี 020469674004 ชื่อบัญชี นายรณวิต (สงวนนามสกุล) จำนวน 1 เล่ม
-จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาพบว่าช่วงกลางดึกของวันที่ 23 พ.ย.68 กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วย 1.น.ส.ศรีสุดา (สงวนนามสกุล)2.นายสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) 3.นายมานะ (สงวนนามสกุล) ได้เดินทางไปยังจว.สระแก้ว จึงได้สะกดลอยติดตามเนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวจะทำการหลบหนี แล้วประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.12ร่วมกันจับกุมตัว 1. น.ส.ศรีสุดา หรือกล้วย อายุ 38 ปี พักอาศัยอยู่ที่ หมู่ 8 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว 2. นายสมพงษ์ หรือเป้ อายุ 36 ปี พักอาศัยอยู่ที่ หมู่ 14 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จว.สระแก้ว 3. นายมานะ หรือนะ พร้อมด้วยของกลางอายุ 37 ปีพักอาศัยอยู่ที่ หมู่ 8 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว 1. รถยนต์ ยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีขาว จำนวน 1 คัน (คันที่ น.ส.ศรีสุดา หรือกล้วย เป็นผู้ขับขี่)2. โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ 6 เครื่อง3.รถยนต์ ยี่ห้อ NISSAN รุ่น NOTE สีขาว จำนวน 1 คัน (คันที่ นายสมพงษ์ หรือเป้ เป็นผู้ขับขี่)4. กล่องพลาสติกแบบมีฝาเปิด – ปิดด้านบน สีดำ ภายในมีสิ่งของบรรจุอยู่ดังนี้-สมุดบัญชีธนาคาร 17 เล่ม- บัตรเอทีเอ็ม 66 ใบ- โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ 18 เครื่องโดยกล่าวหาว่า“ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด มาตรา 10 ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๖๖”จุดที่พบของกลาง รถยนต์ (ของกลางลำดับที่ 1) ตรวจพบอยู่กับ น.ส.ศรีสุดา หรือกล้วย ขณะ จนท.ตร.ชุดจับกุมตรวจค้นในที่เกิดเหตุ, โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ (ของกลางลำดับที่ 2) ตรวจพบวางอยู่ภายในห้องโดยสารด้านหลังของรถยนต์ (ของกลางลำดับที่ 1) ขณะ จนท.ตร.ชุดจับกุมตรวจค้นในที่เกิดเหตุ, รถยนต์ (ของกลางลำดับที่ 3) ตรวจพบอยู่กับ นายสมพงษ์ หรือเป้ ขณะ จนท.ตร.ชุดจับกุมตรวจค้นในที่เกิดเหตุ, กล่องพลาสติกแบบมีฝาเปิด – ปิดด้านบน สีดำ (ของกลางลำดับที่ 4) ตรวจพบวางในห้องเก็บของสัมภาระด้านหลังของรถยนต์ (ของกลางลำดับที่ 3) ขณะ จนท.ตร.ชุดจับกุมตรวจค้นในที่เกิดเหตุจากการตรวจสอบประวัติพบว่า นายมานะฯ พร้อมพวก เคยถูกจับกุมคดีลักษณะเดียวกันในเขตท้องที่
สภ.หนองแค จว.สระบุรีสรุปการปฏิบัติในภาพรวมการจับกุมครั้งนี้เกิดจากระบบ War Room ของจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจสืบสวน พนักงานสอบสวน และธนาคารสาขาในพื้นที่ ทำให้สามารถระบุตัวเครือข่าย “ผู้จัดหา–ผู้รับจ้าง–ผู้หมุนบัญชี” ได้ภายในเวลาอันรวดเร็วและนำไปสู่การตรวจยึดบัญชีม้าและโทรศัพท์ที่ใช้คู่กับบัญชีม้าซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการรับโอนเงินเกี่ยวกับการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยจะนำส่งให้กลุ่มจีนเทาในประเทศกัมพูชา ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะดำเนินการสืบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมกระทำความผิดในเครือข่ายนี้ต่อไป
*********************************************ขอขอบคุณในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ตำรวจภูธรภาค 1









