ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) เดินหน้ายกระดับปฏิบัติการ “ตัดวงจรแก๊งเอเยนต์คอกม้า” ที่ผันตัวจากผู้ขายบัญชีม้า กลายเป็นผู้จัดหาบัญชีให้เครือข่ายอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หลังขยายผลคดีพบการกระทำผิดเป็นขบวนการชัดเจน
ปฏิบัติการครั้งนี้อยู่ภายใต้คำสั่งของ
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก.
พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ปคบ.
พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก.1 บก.ปคบ. และชุดปฏิบัติการที่ 6 ลงพื้นที่สืบสวน–จับกุม
เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่
1. น.ส.รติพร อายุ 36 ปี
2. นายสิทธิพร อายุ 22 ปี
3. นายวิชัย อายุ 40 ปี
ถูกตั้งข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวเพื่อให้มีการซื้อ–ขาย–ให้เช่า–ให้ยืม บัญชีธนาคาร/บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ปี 2566 มาตรา 10 รวมถึงข้อหากระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภท 1
ของกลางที่ยึดได้ประกอบด้วย
– บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์–กรุงไทย พร้อมบัตรกดเงินสด 2 ชุด
– โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
– เงินสดค่าซื้อบัญชี 2,000 บาท
– ยาบ้า 6 เม็ด และอุปกรณ์การเสพ
ผู้ต้องหาถูกจับได้บริเวณลานจอดรถชั้น 5 ที่ห้างชื่อดังแห่งหนึ่งและคอนโดหรู ย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี ในช่วงเวลา 17.40–18.40 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568
สืบสวนพบว่าแก๊งนี้รับซื้อบัญชีธนาคารในราคา 1,000–2,500 บาท ขึ้นอยู่กับวงเงินธุรกรรมรายวัน โดยมักเช่าห้องใกล้ห้างที่มีหลายธนาคาร เพื่อความสะดวกในการพาคนมาเปิดบัญชี
เจ้าหน้าที่จึงส่งสายลับเข้าไปล่อขายบัญชี และนัดส่งมอบที่ห้างดังย่านงามวงศ์วาน
เมื่อสายลับส่งบัญชีให้ รติพร และ สิทธิพร ทั้งคู่ได้ทำการสแกนใบหน้าและลงทะเบียนแอปธนาคารแล้วจ่ายเงินสดให้สายลับทันที ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัว พบยาบ้าในตัวสิทธิพร และตรวจพบสารเสพติดทั้งสองราย
หลังจับกุม น.ส.รติพร ให้ข้อมูลว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกคนคือ นายวิชัย ที่พักอยู่คอนโดเดียวกัน และทำหน้าที่รับซื้อบัญชีเช่นกัน
เมื่อตรวจค้นห้องพัก พบตัวนาย วิชัย ตรวจพบสารเสพติด รวมทั้งยึดโทรศัพท์ที่ใช้โพสต์รับซื้อบัญชีผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว นาย วิชัยรับสารภาพว่าเสพยาไอซ์ และจัดหาบัญชีส่งให้ “นายทุนภาคเหนือ” และ “นายทุนในประเทศเพื่อนบ้าน”
ผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้บางคนเคยขายบัญชีม้ามาก่อนและเคยถูกจับ จึงเปลี่ยนมาเป็นผู้จัดหาแทน โดยทำกำไรจากส่วนต่าง เช่น
– นายทุนรับซื้อ 2,000 บาท
– ผู้ต้องหาว่าจ้างคนเปิดบัญชี 1,500 บาท
กำไรทันที 500 บาทต่อบัญชี
นายทุนจะส่งโทรศัพท์เครื่องเปล่า (ใช้ชื่อผู้ส่งปลอม) มาให้ผู้ต้องหาเพื่อลงทะเบียนแอปธนาคารล่วงหน้า ก่อนจะมีคนนำบัญชีมาขาย จากนั้นจะโอนเงินค่าซื้อบัญชีผ่านวอลเลตบุคคลอื่นเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน ส่วนเงินที่ผู้ต้องหาได้จะนำไปใช้จ่ายส่วนตัวและซื้อยาเสพติดมาเสพ
เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป









