เมื่อเวลา 10.15 น วันที่10พย.2568เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ได้คุมตัวนาย สมพงษ์ อยู่สุข อายุ 28 ปี คนร้ายก่อเหตุปล้นทองที่ห้างทองเยาวราช เอ็มโกลด์ ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลาง สร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ รวมน้ำหนัก 55 บาท มูลค่ากว่า 3 ล้านบาท และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
นายสมพงษ์ให้การว่า ตนมีอาชีพช่างกลึง โดยที่ก่อเหตุในครั้งนี้เพื่อต้องการเงินไปใช้หนี้เพราะติดหนี้พนันออนไลน์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาหนักว่ามีความผิดฐาน “ชิงทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม” และ“พยายามฆ่าเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งได้กระทำตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำตามหน้าที่” รวมทั้ง“มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุอันควร”
พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ชูบุญเรือง รองผกก.สืบสวน ได้บอกว่าจากการสอบถามคนร้ายอย่างละเอียดว่า คนร้ายได้ขโมยปืนมาจากเพื่อน และไม่เคย ใช้ปืนยังใช้ปืนไม่เป็นเท่าไร ตอนที่ขึ้นลำกล้องปืนรนรานเร่งรีบเลยไปโดนปุ่มทำให้แมกกาซีนหลุดออกจากปืนตกลงมาที่พื้นไม่รู้ตัวและขณะหนีพยายามที่จะยิงเปิดทางใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและยิงขึ้นฟ้าและเมื่อปืนยิงไม่ออกก็ตกใจหันหลังกลับเพื่อจะวิ่งหนีแต่ไม่ทัน
โดยคนร้ายบอกว่าที่เลือกที่จะปล้นร้านทองที่โลตัสนี้เพราะเห็นว่าร้านทองที่นี่มีอยู่2ร้านอยู่ใกล้ทางออกพอได้ทองแล้วน่าจะหนีได้ไม่ยาก ครั้งแรกตอนเข้าไปไม้ได้ตั้งใจจะไปปล้นร้านนี้ กะจะเข้าไปปล้นร้านที่อยู่ทางซ้ายมือ แต่เห็นว่ามีพนักงานเป็นผู้ชายจึงไม่กล้า หันมาเห็นร้านนี้มีแต่ผู้หญิงจึงรีบลงมือทันที ทางพตท.ศักดิ์สิทธิ์ จึงฝากแจ้งร้านทองว่าการมีพนักงานขายเป็นผู้ชายหรือมีรปภ.สักคนน่าจะเป็นผลดีในระดับหนึ่งซึ่งทำให้คนร้ายอาจจะกลับใจไม่กล้าลงมือก็ได้
ขณะที่ พ.ต.อ.ภคิณ ศิวเมธากุล รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร รรท.ผกก.สภ.กระทุ่มแบน กล่าวด้วยว่า สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของ “จ่าเปิ้ล” หรือ จ.ส.ต.สุกิจ กล้าสงคราม นั้นนับเป็นที่น่ายกย่องเชิดชูเกียรติตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถและมีปฏิภาณไหวพริบดีเยี่ยม เพราะทางด้านของ จ่าเปิ้ล ก็มีอาวุธติดตัว แต่เมื่อเห็นว่าอาวุธปืนที่คนร้ายถืออยู่นั้นไม่สามารถใช้งานได้ จึงได้เข้าจับกุมโดยยุทธวิธีมือเปล่าและไม่ใช้อาวุธที่พกติดตัวมาทำร้ายร่างกายของคนร้าย ซึ่งนอกจากจะเห็นถึงการความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงมนุษยธรรมในตัวอีกด้วย
วันนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกจ่าเปิ้ล ไปพบ เพื่อพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และพิจารณามอบรางวัลเกียรติยศให้แก่จ่าเปิ้ล ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีได้ให้จ่าเปิ้ลเข้าพบเป็นการด่วนเพื่อเป็นการยกย่องในการปฎิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
/ทีมข่าวสมุทรสาคร
*********************









